ซิเย็คฮีโร่ เชลซี อัด แมนซิตี้ เข้าชิงเอฟเอคัพ-เป๊ปเซ็งแพ้แถมเสียแข้งสำคัญอีก

“สิงห์บลูส์” โชว์ฟอร์มเฉียบเฉือดชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 จากประตูชัยของ ฮาคิม ซิเย็ค ในเกมรอบรองฯ เอฟเอ คัพ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลี่ย์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ระหว่าง “สิงห์บลู” เชลซี พบกับจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเวมบลีย์ สเตเดี้ยม (สนามกลาง)

เปิดฉากเกมครึ่งแรก นาที 10 “เรือใบสีฟ้า” ได้ทักทายก่อนหลัง กาเบรียล เชซุส รับบอลจาก เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนจะตั้งป้อมซัดนอกกรอบแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า อีก 5 นาที ถัดมา เชลซี สวนกลับมาแบบได้ลุ้น ติโม แวร์เนอร์ พาบอลจากครึ่งสนามขึ้นมาแล้วจ่ายออกซ้ายให้ ฮาคิม ซิเย็ค เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนสับขาหลอกแล้วซัดเข้ากลางแต่ยังไปติดบล็อคแนวรับเรือใบ นาทีที่ 19 รีซ เจมส์ ถึงเส้นหลังแล้วครอสไปเสาไกลให้ เบน ชิลเวลล์ เติมขึ้นมาซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับแต่บอลก็หลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น จากนั้นนาทีที่ 33 ฮาคิม ซิเย็ค ตะลุยพาบอลขึ้นมาแล้วแทงออกขวาให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ยังไปติดบล็อค เอเมอริค ลาป๊อร์กต์ และจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม อีกนาทีต่อมา เบน ชิลเวลล์ เปิดบอลมากลางประตู รีซ เจมส์ หวดด้วยขวาบอลพุ่งถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 45 เป็นโอกาสของทัพเรือใบบ้าง คราวนี้ ราฮีม สเตอร์ลิง ครอสไปหน้าปากประตูให้ แฟร์นันดินโญ่ ขึ้นเช็ดบอลแต่หลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น

จบครึ่งแรก ค่อนข้างสูสี เชลซี ยังเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 0-0

กลับมาต่อที่ครึ่งหลัง ในนาทีที่ 48 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องเจอข่าวร้ายหลัง เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพคนสำคัญมีอาการบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยนเอา ฟิล โฟเด้น ลงมาเล่นแทน จากนั้นนาทีที่ 55 กลายเป็น “สิงห์บลูส์” ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมมาทางซ้าย เมสัน เมาน์ท แทงบอลให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดกับดักล้ำหน้ากระชากเข้าไปก่อนปาดเลียดมาหน้าประตูให้ ฮาคิม ซิเย็ค แม้จะย้อนหลังแต่ขืนตัวเองล้มตัวยิงเข้าไปไม่พลาด ต่อมานาทีที่ 59 ซิเย็ค เกือบพังประตูที่สองให้ตัวเองและให้กับทีมนำห่าง หลัง เบน ซิลเวลล์ ตักบอลขึ้นหน้าให้ปีกชาวโมร็อคโกฉกความผิดพลาดของแนวรับซิตี้เข้าไปซัดติดเซฟของ แซค สเตฟเฟ่น ถึงนาทีที่ 70 เชลซี เปลี่ยนผู้เล่นบ้างส่ง คริสเตียน พูลิซิช ลงเล่นแทน เมสัน เมาน์ท ทำให้ในสนามนอกจาก แซค สเตฟเฟ่น นายด่านเรือใบแล้วยังมีพูลิซิชเป็นแข้งชาวสหรัฐฯคนที่สองที่ได้เล่นในรอบตัดเชือกพร้อมกัน จากนั้นนาทีที่ 77 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไหลให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้กดด้วยซ้ายแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ แซค สเตฟเฟ่น นาทีที่ 82 เป็นโอกาสของ “เรือใบสีฟ้า” ฟิล โฟเด้น ไหลให้ โรดรีโก้ ลองกดด้วยขวานอกกรอบแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า 

ช่วงเวลาที่เหลือลูกทีมของ เป๊ป ไม่สามารถทวงประตูคืนได้ จบเกม เชลซี รักษาสกอร์ก่อนปิดจ็อบเอาชนะจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปหวุดหวิด 1-0 คว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้หรือ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่จะแข่งกันในวันพรุ่งนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (GK), เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เบน ชิลเวลล์, ฮาคิม ซิเย็ค, เมสัน เมาน์ท, ติโม แวร์เนอร์

แมนฯ ซิตี้ : แซค สเตฟเฟ่น (GK), ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอาส, เอเมอริค ลาป๊อร์กต์, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้, แฟร์นันดินโญ่, โรดรี้, เฟร์ราน ตอร์เรส, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เชซุส