คนละสไตล์! เลิฟบอกไม่ติดใจที่ “คล็อปป์” ไม่ชอบแผนหลังสาม

กรณีต่อเนื่องจากการที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมนีของ ลิเวอร์พูล ได้ออกมาบอกว่าตัวเขานั้นไม่ชอบแผนกองหลัง 3 คน ของทีมชาติเยอรมันเลย ซึ่งล่าสุด โยอาคิม เลิฟ ก็บอกว่าตนเองไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องนั้น พร้อมระบุว่าโค้ชจะต้องเลือกทำในสิ่งที่มีผลดีที่สุดให้กับทีมอยู่แล้ว และแต่ละคนก็มีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน

โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ของทีมชาติเยอรมนี ได้กล่าวว่าตัวเขาเองไม่มีปัญหาแต่อย่างใดที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ได้บอกว่าตัวเขาเองไม่ได้ชอบแผนการเล่นแบบ กองหลังสามคน ที่เลิฟใช้ในศึก ยูโร 2020 ในครั้งนี้ แต่ก็มองว่าโค้ชแต่ละคนก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรจะส่งผลดีที่สุดกับทีมของตัวเอง เพราะอยู่ใกล้ชิดกับนักเตะในทีมตลอด

โยอาคิม เลิฟ ได้เลือกใช้ระบบเซนเตอร์แบ็ก 3 คนมาเป็นเวลาพักหนึ่งแล้ว โดยในศึกยูโร 2020 ครั้งนี้ ทีมของเขาที่ลงเล่นในระบบนี้ก็มีผลงานทั้ง ชนะ, เสมอ และแพ้อย่างละหนึ่งเกม ซึ่งในช่วงแรกนั้นทาง เจอร์เก้น คล็อปป์​ ก็ได้แสดงทัศนะส่วนตัวไปแล้วว่าเขาไม่ชอบแผนนี้ของ เลิก มากเท่าไรนัก เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบใช้แผนกองหลังสามคนแบบนี้มานานแล้ว จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่อง

เจอร์เก้น คล็อปป์

ล่าสุดเมื่อ เลิฟ ถูกถามถึงความเห็นของ คล็อปป์ ที่มีต่อทีมชาติเยอรมัน เลิฟก็ได้ตอบเรื่องนี้ว่า “โค้ชแต่ละคนมีปรัชญาและไอเดียในการทำทีมที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ระบบที่ใช้ในสนามได้จริงๆ มันไม่ใช่ปัจจัยที่จะชี้วัดอะไรได้มากมายนัก โค้ชแต่ละคนจะต้องคิดถีงสิ่งที่ส่งผลดีกับทีมมากที่สุด รวมทั้งเรื่องที่เป็นความสำคัญมากที่สุดในเกมรับ เกมรุกด้วย เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็แบบหนึ่ง ผมเองก็แบบหนึ่ง และโค้ชทีมชาติอังกฤษเองก็อีกแบบ”

“คนที่เป็นโค้ชจะต้องทำงานตามสิ่งที่ตัวเองเห็น จากการสังเกตการณ์ทีมของเขา เพราะโค้ชคือคนที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับทีมมากที่สุด และเขาก็ต้องตัดสินใจว่าทีมจะสามารถเล่นในแบบที่ต่างไปจากแบบอื่นๆ ได้เหมือนกับที่เกิดขึ้นในทีมชาติอังกฤษ หรือกับทีม เชลซี”

“โค้ชทุกคนย่อมรู้ดีว่าอะไรที่เป็นผลดีที่สุดต่อทีมของเขาเอง มันไม่มีโค้ชคนไหนหรอกที่จะบังคับให้ลูกทีมต้องเล่นในระบบที่พกวเขาไม่ชอบหรือไม่ถนัด มันไม่สำคัญหรอกว่าโค้ชคนอื่นๆ จะพูดยังไง ทุกคนต่างก็มีความเห็นเป็นของตัวเอง และสามารถพูดออกมาได้ แต่เกมน่ะมันจะตัดสินจากปัจจัยด้านอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่ระบบการเล่นอย่างเดียว”

“ผมว่ามันต้องมีการพูดให้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ การจะตัดสินว่าคุณจะชนะหรือแพ้น่ะ มันมาจากปัจจัยอื่นๆ และเรื่องอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องของการเล่นกองหลัง 3 หรือ 4 คน เท่านั้น”