ชวดขึ้นที่ 3 แมนฯ ยู โดน เซาแธมป์ตัน ตีเสมอทดเจ็บ 2-2

ไมเคิล โอบาเฟมี ลงมาเป็นซุปเปอร์ซับทำประตูตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเจ็บ ช่วยให้ เซาแธมป์ตัน บุกมาแบ่งแต้มจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สำคัญทีม “ปิศาจแดง”ยังไม่สามารถแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 3

เกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 35 แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 5 ที่กำลังลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เปิดบ้านพบ เซาแธมป์ตัน อันดับ 12 ที่อันดับลอยลำกลางตาราง

โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด พาทีมทำผลงานยอดเยี่ยมชนะด้วยผลต่าง 3 ประตู มา 4 เกมติดต่อกัน และถือเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก โดยนัดนี้ยังคงไว้ใจผู้เล่นชุดเดิมจากเกมล่าสุดที่ชนะ แอสตัน วิลลา 3-0 แดนกลาง เนมานยา มาติช คุมเกมร่วมกับ ปอล ป็อกบา ส่วน บรูโน แฟร์นันเดส มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด ยืนเป็น 3 ประสานอยู่หลัง อ็องโตนี มาร์กซิยาล

ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล เทรนเนอร์เซาแธมป์ตัน ที่เก็บ 7 แต้มจาก 3 เกมหลังสุด นัดนี้แนวรุกฝากความหวังไปที่ แดนนี อิงส์ ที่กำลังคั่วดาวซัลโวหลังทำไปแล้ว 19 ประตูในพรีเมียร์ลีก โดยยืนคู่กับ เช อดัมส์

นาทีที่ 10 แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นขึ้นนำก่อน อ็องโตนี มาร์กซิยาล ได้บอลจากจังหวะที่ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ จับยาวลากเข้าไปยิงแต่ยังติดเซฟของ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่

นาทีที่ 12 กลายเป็นเซาแธมป์ตัน ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ พอล ป็อกบา โดนเพรสซิ่งเสียบบอลถูก แดนนี่ อิงส์ แย่งจากหน้าหัวกะโหลก ก่อนจ่ายให้ นาธาน เรดมอนด์ ที่เปิดต่อมาถึง สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ยิงที่เสาสองเข้าไป

นาทีที่ 16 มาร์คัส แรชฟอร์ด แม้จะยิงด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ เข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินนั้นยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว แมนฯ ยู ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ

แต่แล้วอีก 4 นาทีต่อมา แมนฯ ยู ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่มาแก้ตัวได้บอลจาก ปอล ป็อกบา จ่ายมาให้ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษจะยิงทแยงมุมเข้าไป

นาทีที่ 23 แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกขึ้นนำ 2-1 บรูโน แฟร์นันเดส จ่ายให้ อ็องโตนี มาร์กซิยาล ลากจี้เข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม และถือเป็นประตูที่ 50 ในลีกที่ มาร์กซิยาล ทำได้กับ แมนฯ ยู

นาทีที่ 28 ปอล ป็อกบา ได้ยิงนอกกรอบ เล่นเอา อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ต้องปัดออกมา แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ได้ประตูที่ 3

หลังเสียไป 2 ประตู เซาแธมป์ตัน โดยเฉพาะคู่หน้าอย่าง เช อดัมส์ กับ แดนนี่ อิงส์ นั้นหายไปจากเกม และปล่อยให้แนวรุก แมนฯ ยู กดดันต่อเนื่อง แต่ไม่มีประตูเพิ่ม ครึ่งแรก แมนฯ ยู นำ 2-1

กลับมาลงสนามอีกครั้ง ช่วงต้นครึ่งหลัง ทีมเยือน เซาแธมป์ตัน ถือว่าทำได้ดีไม่ต่างจากในช่วงต้นครึ่งแรก แต่เกมผ่าน 1 ชั่วโมง สกอร์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นาที 68 มาร์คัส แรชฟอร์ด เล่นชิงกับ อ็องโตนี มาร์กซิยาล เข้ามาในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้าย แรชฟอร์ด ไม่ได้ใส่สกอร์ลูก 3 โดยถูก ไรอัน เบอร์ทรานด์ เคลียร์ทิ้งออกไปได้

นาทีที่ 81 เชน ลอง ตัวสำรอง เซาแธมป์ตัน ได้โหม่งจ่อๆ แต่บอลเบาเข้ามือ ดาบิด เด เคอา รับกินสบาย 

นาทีที่ 86 เซาแธมป์ตัน น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อ นาธาน เรดมอนด์ สับหลอกก่อนได้กดยิง แต่ ดาบิด เด เคอา ยังปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม

เกมทำท่าว่าชัยชนะจะเป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ช่วงนาทีที่ 90+6 เซาแธมป์ตัน มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจังหวะเตะมุม และบอลไปถึงยาน เบดนาเร็ค โหม่งเช็ดไปถึง ไมเคิล โอบาเฟมี ตัวสำรองชาร์จจ่อๆ เข้าประตูไป จบเกม แบ่งแต้มกันไป แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอยู่ที่ 5 เท่าเดิมมีเพิ่มเป็น 59 แต้ม ส่วน เซาแธมป์ตัน อยู่อันดับ 12  มี 45 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม 

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – ปอล ป็อกบา, เนมานยา มาติช – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี มาร์กซิยาล

เซาแธมป์ตัน (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ – ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, ยาน เบดนาเร็ค, ไรอัน เบอร์ทรานด์ – สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, โอริโอล โรเมอู, นาธาน เรดมอนด์ – เช อดัมส์, แดนนี่ อิงส์

Credit : https://www.thairath.co.th/