ชำแหละ 5 ประเด็นร้อน “แมนยูฯ” เปิดรังเจ๊า “เวสต์แฮมฯ”
“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ตีเสมอ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปแบบสุดระทึก 1-1 และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้
1.รูปเกม
เกมนี้ แมนยูฯ ถือว่าออกสตาร์ตได้ดี ช่วงต้นเกมเกือบได้ประตูนำก่อนจากทั้งลูกยิงของ เมสัน กรีนวูด และ อองโตนี มาร์เชียล แต่ไม่ผ่าน ลูคัส ฟาเบียนสกี จอมหนึบของเวสต์แฮมฯ ส่วนทีมเยือนได้ลุ้น 2 หนจากลูกโหม่งของ อังเจโล อ็อกบอนนา ที่หลุดกรอบออกไป และจังหวะซัดในเขตโทษของ มิคาอิล อันโตนิโอ ที่ ดาบิด เดเคอา เซฟไว้ได้ แต่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+2 แมนยูฯ มาเสียจุดโทษจากจังหวะที่ พอล ป็อกบา ทำแฮนด์บอล และเป็น อันโตนิโอ ยิงให้ขุนค้อนนำก่อน 1-0 จากนั้นครึ่งหลัง นาทีที่ 51 แมนยูฯ ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ มาร์เชียล จ่ายให้ เมสัน กรีนวูด ยิงเข้าไป ก่อนสุดท้ายจะแบ่งแต้มกันไปในที่สุด ทำให้ปิศาจแดงต้องไปลุ้นติดท็อปโฟร์นัดสุดท้าย ส่วน เวสต์แฮมฯ รอดตกชั้น 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว
2.กรีนวูดปัง มาร์เชียลเจ๋ง
การจบสกอร์ยังคงเฉียบคมและรุนแรงสุดๆ สำหรับ เมสัน กรีนวูด กองหน้าวัย 18 ปี ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูช่วยให้ปิศาจแดงไล่ตีเสมอในเกมนี้ ทำให้ฤดูกาลนี้เขาซัดในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 10 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ส่วน อองโตนี มาร์เชียล ก็โชว์ฟอร์มได้เด็ดดวงไม่แพ้กัน นัดนี้ประสานงานและแอสซิสต์ให้ กรีนวูด ทำประตู ส่วนตัวเขาเองก็มีโอกาสส่องประตูหลายครั้งแต่ก็ติดเซฟและหลุดกรอบออกไป รวมแล้วซีซั่นนี้มาร์เชียลทำไปแล้ว 17 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์
3.มาติชฟอร์มฝืด
เกมนี้ฟอร์มของ มาติช ค่อนข้างมีปัญหา โดยเฉพาะจังหวะที่จะพยายามออกบอล เขาแต่งบอลหลายครั้งเกินไป กว่าจะปล่อยบอลออกจากเท้า ทำให้รูปเกมไม่ไหลลื่น และทำให้คู่แข่งมีเวลาในการตั้งโซนเพื่อป้องกันเกมรุกของยูไนเต็ด และที่สำคัญเขาได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีอีกต่างหาก แทนที่จะส่ง เฟร็ด หรือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงมาเพิ่มความสดในแดนกลางและจะได้พักมาติชด้วย เพราะอย่าลืมว่ามีแมตช์สำคัญกับ เลสเตอร์ ซิตี้ รออยู่
4.ความล้าเป็นเหตุ
เกมนี้นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนแสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าอย่างชัดเจน และพยายามกัดฟันสู้อย่างเต็มที่แล้ว เพราะเพิ่งแข่ง เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ กับเชลซี มาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง พอมาเจอกับ เวสต์แฮมฯ ที่ได้พักมามากกว่าและต้องการแต้มเพื่อการันตีรอดตกชั้น เลยทำให้ทัพขุนค้อนมีแรงฮึดมากกว่าเจ้าถิ่นชัดเจน และจากนี้ไปยูไนเต็ดจะได้พักอีกแค่ 3 วันก่อนจะเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้พักมา 6 วันเต็มๆ แค่คิดก็น่าหวั่นใจแล้วว่าแข้งปิศาจแดงจะมีเรี่ยวแรงในการบดสู้กับ จิ้งจอกสยาม มากน้อยแค่ไหนในนัดสุดสุดท้ายวันอาทิตย์นี้ เพราะมันคือการแย่งชิงตั๋วยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่ทั้งสองทีมต่างอยากได้ไปครอบครอง
5.เงื่อนไขลุ้นติดท็อปโฟร์นัดสุดท้าย
ปัจจุบัน แมนยูฯ อยู่อันดับ 3 ของตาราง โดยมี 63 แต้มเท่ากับอันดับ 4 เชลซี แต่ประตูได้เสียของปิศาจแดงดีกว่า ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่อันดับ 5 มี 62 คะแนน หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากได้ตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซีซั่นหน้า นัดสุดท้ายขอแค่เสมอหรือชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ก็จะการันตีติดท็อปโฟร์อย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดพลาดท่าแพ้เลสเตอร์ขึ้นมา ก็ต้องลุ้นให้เชลซีแพ้วูล์ฟแฮมป์ตันในนัดสุดท้ายเท่านั้น
Credit : https://www.thairath.co.th/