บาร์เซโลนา พลิกนรกตามเสมอกรานาดา ต่อเวลาดับ กรานาดา 5-3 ลิ่วตัดเชือกโกปาฯ

“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา เอาชนะ กรานาดา ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ไป 5-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ สเปน ได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอล โกปา เดล เรย์ สเปน ฤดูกาล 2020-21 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ 3 ก.พ. 64 คู่ที่น่าสนใจ กรานาดา เปิดสนามเอสตาดิโอ คาร์เมเนส รับการมาเยือนของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา

เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 33 กรานาดา ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อัลแบร์โต โซโร เปิดบอลเรียดจากในเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลางให้ เคเนดี แปจ่อๆ เข้าไปไม่พลาด ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 กรานาดา หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อังเคล มอนโตโร เปิดบอลยาวจากแดนหลังขึ้นมาให้ โรแบร์โต โซลดาโด ควบพาบอลหลุดเดี่ยวก่อนยิงผ่าน มาร์ค อังเดร แตร์ สเตเกน จอมหนึบของบาร์ซา เข้าไปตุงตาข่าย ถึงนาทีที่ 88 บาร์ซา ไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี ตักบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อองตวน กรีซมันน์ ตวัดเข้ากลาง บอลมาโดน อารอน เอสแคนเดลล์ ผู้รักษาประตูกรานาดาทำเข้าประตูตัวเองไป เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ทว่าในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+2 บาร์ซา ตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย อองตวน กรีซมันน์ โหม่งเข้ากลางให้ ฆอร์ดี อัลบา โขกเข้าไป จบ 90 นาที กรานาดา เสมอ บาร์เซโลนา 2-2 ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

กลับมาลุยกันต่อ นาทีที่ 100 บาร์ซา ได้ประตูขึ้นนำ 3-2 จากจังหวะที่ ฆอร์ดี อัลบา บรรจงเปิดบอลจากในเขตโทษฝั่งซ้ายไปหน้าประตู อองตวน กรีซมันน์ ขึ้นโหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม จากนั้นนาทีที่ 103 กรานาดา ตีเสมอเป็น 3-3 จากการยิงจุดโทษของ เฟเด วิโก แต่นาทีที่ 108 บาร์ซา ขึ้นนำ 4-3 จากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี ยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ อารอน เอสแคนเดลล์ ปัดบอลมาเข้าทาง เฟรนกี เดอ ยอง ตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือซาก ถึงนาทีที่ 113 บาร์ซา  หนีไปเป็น 5-3 เมื่อ อองตวน กรีซมันน์ ได้บอลในเขตโทษก่อนดีดไปทางซ้ายให้ ฆอร์ดี อัลบา วอลเลย์ด้วยซ้ายเข้าไปอย่างงามหยด

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้  ครบ 120 นาที บาร์เซโลนา บุกชนะ กรานาดา 5-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

กรานาด้า: อารอน เอสกานเดลล์ – นาอวล เปเรซ, เคร์มาน ซานเชซ, เฆซุส บาเยโฆ – บิคตอร์ ดีอาซ, ย็อง บรีซ เอเตกี, อังเคล มอนโตโร่, การ์ลอส เนบา – อัลเบร์โต้ โซโร่, อันโตนิโอ ป้วยร์ตาส – โรเบร์โต้ โซลดาโด้ 

บาร์เซโลน่า: นอร์แบร์โต้ มูราร่า เนโต้ – เซร์จี้ โรเบร์โต้, โรนัลด์ อาเราโฮ, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา – เฟรงกี้ เดอ ย็อง, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, รีกี ปุช – อองตวน กรีซมันน์, ลิโอเนล เมสซี่, มาร์ติน เบรธเวต