บุญหล่นทับ! “นิวคาสเซิ่ล” จ่อกลายเป็นทีมที่รวยที่สุดในโลก หลังกลุ่มทุนซาอุ ใกล้เทคโอเวอร์ได้สำเร็จ

มหากาพย์ชวนฝันค้างตั้งแต่เมื่อปี 2019 ใกล้จะสำเร็จเต็มที หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีกรณีพิพาทในเรื่องที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประกาศแบนช่อง beIN Sport ที่ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกในตะวันออกกลาง ทำให้กระทบถึงการเข้าเทคโอเวอร์สโมสร “นิวคาสเซิ่ล” ของกลุ่มนายทุนซาอุฯ

ล่าสุด เดลี่ เมล สำนักข่าวชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ รายงานว่า กลุ่มทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศซาอุดิอาระเบีย เตรียมได้รับไฟเขียวให้เทคโอเวอร์สโมสร “นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด” ในเร็ว ๆ นี้ หลังมีการประกาศยกเลิกในการแบนช่อง beIN Sport ในประเทศของพวกเขา

ซึ่งการเข้ามาเทคโอเวอร์ในครั้งนี้ ลากยาวมานานถึง 18 เดือน หลังจากตอนนั้น ทางพรีเมียร์ลีกไม่ยอมอนุมัติ เพราะมองว่าประเทศซาอุดิอาระเบีย และกลุ่มนายทุน (PIF) ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการแบน beIN Sport ทำให้พวกเขา ต้องเจอปัญหาในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์

โดยการที่กลุ่มนายทุนซาอุ ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเทคโอเวอร์สโมสรในอังกฤษในครั้งนี้ ทำให้มีการตั้งคำถามเกิดขึ้นมากมาย อาทิเช่น เรื่องภูมิรัฐศาสตร์, สิทธิมนุษยชนและการใช้กีฬาฟุตบอลเป็นเครื่องฟอกตัวฟอกเงินในอีกรูปแบบหนึ่ง ทว่าจากผลการสำรวจจากแฟนบอลของ นิวคาสเซิ่ล เมื่อเร็วๆนี้ กลับพบว่า มีแฟนบอลมากถึง 93.8 เปอร์เซ็นต์ ที่อยากให้ดีลนี้เกิดขึ้นแบบสุด ๆ

ตามรายงานของ ดิ แอธเลติก สื่ออีกสำนัก ได้มีการยืนยันต่อไปว่า กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย กำลังจะปิดดีลในเร็ววันนี้ โดยจะเทคโอเวอร์นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สนธิราคาที่ 300 ล้านปอนด์ (ราว 13,923 ล้านบาท) เหมือนที่พวกเขาเคยยื่นข้อเสนอนี้ในคราวก่อน และหากขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จสิ้น กลุ่มทุนจะเป็นเจ้าของทีม สาลิกาดง ในสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์

โดยมี ยาซีร์ อัล รูมายยัน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากราชวงศ์ จะนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร ขณะที่อีก 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจะเป็นของ อาแมนด้า สตีฟลีย์ นักธุกิจหญิงชาวอังกฤษ ที่เป็นคนเดินเรื่องการติดต่อขอซื้อทีมในครั้งนี้ ให้กับมหาเศรษฐีอาหรับ โดยเธอจะไปแบ่งกับพี่น้องอีกตระกูลชาวอังกฤษในอัตราส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ เท่า ๆ กัน อีกต่อนึง

ซึ่งถ้าดีลสำเร็จจริง สโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะเขี่ย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงขึ้นมาเป็นทีมอภิมหึมามหาเศรษฐีทันที โดยมีทรัพย์สินมากกว่าทัพเรือใบสีฟ้า ประมาณ 10 เท่า และมากกว่าทัพเปแอสเช ถึง 50 เท่าด้วยกัน

พร้อมกันนี้ หากกลุ่มนายทุนจาก ซาอุดิอาระเบีย ได้ครอบครองสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้สมใจเมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่า สตีฟ บรู๊ซ กุนซือคนปัจจุบัน ต้องเดือดร้อนแบบสุด ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย โดยสื่อคาดกันว่า สาลิกาดง ภายใต้เจ้าของคนใหม่จะเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมทันทีอย่างแน่นอน