สเตอร์ลิงโขกชัย อังกฤษ อัด เช็ก เข้าที่ 1 ลิ่ว 16 ทีมชนรองแชมป์กรุ๊ปออฟเดธ

ราฮีม สเตอร์ลิง สวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยพา อังกฤษ เบียดเอาชนะ เช็ก หวุดหวิด 1-0 คว้าสามแต้มมีเพิ่ม 7 คะแนนซิวแชมป์กลุ่ม ดี ส่วนเช็กคว้าที่ 3 หลังโดน โครเอเชีย ที่แม้แต้มเท่ากันแต่ประตูได้มากกว่าคว้ารองแชมป์กลุ่มไปครอง เข้าไปพบกับรองแชมป์จากกลุ่ม อี ในศึกยูโร 2020 กลุ่ม ดี นัดสุดท้าย เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2020 กลุ่ม ดี นัดสุดท้าย เมื่อคืนวันอังคารที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง เช็ก พบกับ อังกฤษ ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน (อังกฤษ) โดยทั้งสองทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมเรียบร้อยแล้วเกมนี้เป็นการตัดสินแชมป์ของกลุ่มเท่านั้น

เปิดฉากครึ่งแรกมาไม่ถึง 2 นาที “สิงโตคำราม” ชวดได้ประตูขึ้นนำหลัง ลุค ชอว์ ตักบอลขึ้นหน้าให้ ราฮีม สเตอร์ลิงหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไป กระดกบอลข้ามตัว โทมัส วาคลิค นายด่านของเช็กไปแล้วแต่บอลดันพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย เกมรุกของอังกฤษมาเรื่อยๆ นาที 10 บอลจากลูกเตะมุม ลุค ชอว์ เปิดมาให้ จอห์น สโตนส์ โขกเหินคานไป ถัดมาอีกนาที แฮร์รี่ เคน วอลเลย์นอกกรอบบอลสูงออกไปอีก กระนั้นนาทีที่ 12 ทัพสิงโตคำราม ทะยานออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน พลิกบอลไหลออกซ้ายให้ แจ็ค กรีลิช ได้บอลถึงเส้นหลังแล้วตักไปเสาไกล บูคาโย่ ซาก้า โขกไม่ถึงแต่ยังมี  ราฮีม สเตอร์ลิง สอดมาโขกไม่ถึง 5 หลาเข้าไป เป็นประตูที่ 2 ของปีกจากแมนฯซิตี้ในยูโรหนนี้ ลูกทีมของ เซาธ์เกต ยังกดดันและครองบอลได้เหนือกว่า นาทีที่ 26 เกือบได้เม็ดที่สองนำห่างหลัง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แทงทะลุช่องให้ แฮร์รี่ เคน หลุดเข้าไปในกรอบก่อนจะล็อคหนี เซลุสต์ก้า ด้วยซ้ายแล้วซัดด้วยขวา แต่บอลยังไปติดมือ วาคลิค อย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 28 เช็ก ได้โอกาสส่องเข้ากรอบหนแรกบ้าง จากจังหวะที่ โทมัส โฮลส์ ตั้งป้อมซัดไกลด้วยขวาบอลพุ่งแรงจน จอร์แดน พิคฟอร์ด ต้องพุ่งปัดออกไป ช่วงเวลาของเช็กที่ครองบอลได้มากขึ้นและหาโอกาสโจมตีแนวรับอังกฤษ นาทีที่ 35 บอลจากด้านซ้าย ยาน โบริล ครอสมาในกรอบ ยาคุบ ยังค์โต้ กำลังจะวอลเลย์จ่อๆ แต่ ชอว์ ยังถึงก่อนโขกบอลทิ้งหวุดหวิด แต่ยังไปเข้าทางปืน โทมัส ซูเช็ค วิ่งมาซ้ำอัดบอลหลุดกรอบออกไปอย่างได้เสียว ท้ายครึ่งแรกนาที 43 แฮร์รี่ เคน พยายามหาสกอร์แรกของตัวเองในยูโรหนนี้ พลิกบอลก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเลียดไปตรงตัว โทมัส วาคลิค แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ ราฮีม สเตอร์ลิง ก่อน จบครึ่งแรก เช็ก ตามหลัง อังกฤษ 0-1

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่น “สิงโตคำราม” ส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เล่นแทน เดแคลน ไรซ์ ส่วนเช็กส่ง ปีเตอร์ เชฟชีค์ ลงไปเล่นแทน  ยาคุบ ยังค์โต้ เข้าสู่หนึ่งชั่วโมงของการแข่งขัน ทั้งสองทีมค่อนข้างผ่อนเกม เช็ก แม้จะตามหลังแต่ปรับเปลี่ยนผู้เล่นพักตัวหลักออกเนื่องจากผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์แล้ว ถัดมานาทีที่ 68 บูคาโย่ ซาก้า เปิดฟรีคิกไปในกรอบ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กำลังจะขึ้นโหม่งแต่โดน ยาน โบริล กระแทกล้มในเขตโทษผุ้ตัดสินไม่ว่าอะไร แม้ว่าแม็คไกวร์จะลุกขึ้นมาขอคำอธิบาย ต่อมานาทีที่ 84 แฟนสิงโตคำรามในเวมบลี่ย์เฮกันใหญ่หลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต ส่ง เจดอน ซานโช่ ลงไปเล่นแทน บูคาโย่ ซาก้า ท้ายเกมนาทีที่ 87 เฮนเดอร์สัน ยิงบอลไปแฉลบแนวรับเช็กเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แต่วีเออาร์เช็กเป็นจังหวะล้ำหน้าของห้องเครื่องจากหงส์แดงเสียก่อน ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่ใสกอร์เพิ่ม จบเกม อังกฤษ เบียดเอาชนะ เช็ก 1-0 คว้าสามแต้มมีเพิ่มเป็น 7 คะแนน คว้าแชมป์ลกลุ่ม ดี ส่วน เช็ก จบรองแชมป์กลุ่ม โดย สิงโตคำราม จะเข้าไปพบกับรองแชมป์จากกลุ่ม เอฟ (เยอรมัน,โปรตุเกส,ฝรั่งเศส หรือฮังการี) ส่วนเช็กคว้าที่ 3 หลังโดน โครเอเชีย ที่แม้แต้มเท่ากันแต่ประตูได้มากกว่าคว้ารองแชมป์กลุ่มไปครอง เข้าไปพบกับรองแชมป์จากกลุ่ม อี 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เช็กโทมัส วาคลิค, วลาดิเมียร์ ซูฟัล, ออนเดรจ์ เซลุสต์ก้า, ทามาส คาลาส, ยาน โบริล, โทมัส ซูเช็ค, โทมัส โฮลส์ (มาเตย์ วีดร้า น.84), ลูคัส มาโซปุสต์ (อดัม โลเช็ค น.64), วลาดิเมียร์ ดาริด้า (อเล็กซ์ คราล น.64), ยาคุบ ยังค์โต้ (ปีเตอร์ เชฟชีค์ น.46), แพทริค ชิค (โทมัส เป็คฮาร์ท น.75)

อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ (ไทรอน มิงส์ น.79), แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, เดแคลน ไรซ์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.46), คัลวิน ฟิลลิปส์, บูคาโย่ ซาก้า (เจดอน ซานโช่ น.84), แจ็ค กรีลิช (จู๊ด เบลลิ่งแฮม น.68), ราฮีม สเตอร์ลิง (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.67), แฮร์รี่ เคน