หยุดสถิติแชมป์ “ไบรท์ตัน” ฮึดรัวครึ่งหลังพลิกแซง “แมนซิตี้” 10 คน เฮรอบ 40 ปี

“นกนางนวล” รวมพลังให้ของขวัญต้อนรับแฟนบอลหลังเปิดบ้านพลิกนรกไล่แซง “เรือใบสีฟ้า” ทีมแชมป์ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่สิบนาทีแรก 3-2 หยุดสถิติเฮนอกบ้านรวด 12 นัดในลีกของ แมนฯ ซิตี้ สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา “นกนางนวล” ไบรท์ตัน ที่ตกชั้นไปแล้ว เปิดสนาม ดิ เอเม็กซ์ คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม พบ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 2 นาที “เรือใบสีฟ้า” ทะยานออกนำก่อน 1-0 จากบอลทางขวาของ ริยาด มาห์เรซ พาขยับเข้าเขตโทษก่อนได้ช่องยกไปเสาไกลถึง อิลคาย กุนโดกัน โขกลอดขา โรเบิร์ต ซานเชซ กระดอนพิ้นตุงตาข่าย แต่แล้วนาทีที่ 9 แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนจากความผิดพลาดของ ชูเอา กานเซโล่ กะจังหวะบอลผิดปล่อยตกพื้นโดน แดนนี่ เวลเบ็ค สอดมาฉกแล้วทิ้งตัวร่วงลงไป สจ๊วร์ต แอตเวลล์ วิ่งมาชูใบแดงให้ กานเซโล่ ทันทีก่อนยืนยันคำตัดสินจากห้องวีเออาร์ 20 นาทีผ่าน ทีมเยือน ได้เสียวจากจังหวะสวนกลับ อิลคาย กุนโดกัน พาแหวกสวนขึ้นมาก่อนแปะต่อให้ ฟิล โฟเด้น แทงออกขวาถึง ริยาด มาห์เรซ ขยับมารับบอลในเขตโทษก่อนอัดด้วยติดบล็อค แดน เบิร์น ออกหลัง 5 นาทีต่อมาแฟนบอล ไบรท์ตัน ใจหายหลัง แดนนี่ เวลเบ็ค ดาวยิงคนสำคัญบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เกรแฮม พอตเตอร์ แก้เกมส่ง เลอันโดร ทรอสซาร์ จอมทัพชาวเบลเยียมลงสนามแทน ก่อนหมกครึ่งแรก 15 นาที “นกนางนวล” หวิดตีเสมอจากจังหวะทางซ้ายของ ยาคุบ โมเดอร์ แหวกเข้าเขตโทษก่อนปาดเข้าในถึง ปาสกาส กรอสส์ ซัดแบบไร้ตัวประกบหน้ากรอบ 6 หลาแต่โดนไม่ดีปลิ้นออกไปเหลือเชื่อ หมดครึ่งเวลาแรก ไบรท์ตัน ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ 0-1

กลับมาต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 “เรือใบสีฟ้า” หนีห่างเป็น 2-0 จากความสามารถเฉพาะตัวของ ฟิล โฟเด้น ลากแหวกขึ้นมาจากครึ่งสนามพาเข้าเขตโทษก่อนอัดด้วยซ้ายผ่านมือ โรเบิร์ต ซานเชซ กระดอนพื้นเสียบหน้าต่างเสาไกลงามหยด แต่ 2 นาทีต่อมา ไบรท์ตัน ตามตีไข่แตกทันควันเป็น 2-1 จากบอลในเขตโทษของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ดึงจังหวะหลอกแนวรับ แมนฯ ซิตี้ ทั้งแผงก่อนได้ช่องอัดด้วยยัดเสาแรกผ่านมือ เอแดร์ซอน โมราเอส ซุกก้นตาข่าย 60 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น เร่งเครื่องขยับมาโจมตีทางริมเส้น ยาคุบ โมเดอร์ สอดมาทางซ้ายก่อนจ่ายยัดเข้าในเกือบถึง ปาสกาส กรอสส์ แต่บอลแรงเลยไปถึงแนวรับ แมนฯ ซิตี้ หวดทิ้งออกมาได้ทัน แต่แล้วนาทีที่ 72 เจ้าถิ่น มาตามตีเสมอ 2-2 จนได้ จากจังหวะทางริมเส้นฝั่งขวา ปาสกาส กรอสส์ ครอสบอลเข้าเขตโทษโค้งมาเข้าหัว อดัม เว็บส์เตอร์ โฉบมาโขกผ่านมือ เอแดร์ซอน โมราเอส เบียดเสาแรกเข้าไป ต่อมานาทีที่ 76 ไบรท์ตัน พลิกแซงนำเป็น 3-2 จากจังหวะหน้าเขตโทษ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ แทงยัดเข้าในให้ แดน เบิร์น ซัดไปติดเซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส เด้งมาเข้าทางล้มตัวตวัดด้วยขวาซ้ำเข้าไปไม่เหลือ ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือน หวิดตีเสมอจาก แฟร์นันดินโญ่ สอดมาฉกบอลตัดบอลหน้าเขตโทษก่อนปาดไปเสาไกลให้ กาเบรียล เชซุส ซัดติดเซฟ โรเบิร์ต ซานเชซ ปัดเข้าทาง เอริค การ์เซีย ซ้ำเหินข้ามคานออกไป หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ไบรท์ตัน เร่งเครื่องท้ายเกม พลิกชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-2

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

ไบรท์ตัน : โรเบิร์ต ซานเชซ (GK), เบน ไวท์, อดัม เว็บส์เตอร์, แดน เบิร์น, ปาสกาส กรอสส์, สตีเวน อัลซาเต้, อีฟส์ บิสซูม่า, ยาคุบ โมเดอร์, อลิเรซ่า ยาฮานบัคช์, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, แดนนี่ เวล

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส (GK), ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอ๊าส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดริโก้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส, ฟิล โฟเด้น