ออกจากผีแล้วดี 10 แข้งอำลา “แมนฯยูฯ” ผงาดโชว์ฟอร์มโหด

บรรดานักเตะที่ย้ายมาอยู่กับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” บางคนอาจจะทำผลงานได้ดี บางรายอาจจะโชว์ฟอร์มไม่ออก แต่เมื่อก้าวออกเท้าออกจากถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดกับทำผลงานได้ดี ทีมข่าวไทยรัฐ สปอร์ต รวบรวม 10 นักเตะที่เคยอยู่กับทีมปิศาจแดงผลงานไม่ปัง แต่ดังเมื่อย้ายออกไปแล้ว

เมมฟิส เดปาย

“เมมฟิส เดปาย” ย้ายจาก พีเอสวี ไฮนด์โอเฟน มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2015-2016 ในยุคของ หลุยส์ ฟานกัล หลังสร้างชื่อในเอเรดิวิซีลีก ฮอลแลนด์ ลงเล่นให้พีเอสวี 124 นัด ทำไป 50 ประตู

ฤดูกาลแรกในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด “เดปาย” ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 29 นัด ยิงไป 2 ประตู แต่ที่แย่กว่านั้นฤดูกาล 2016-2017 เดปายลงเล่นเพียง 4 นัดเท่านั้น รวมแล้ว 2 ฤดูกาลที่ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ลงสนาม 33 นัด ยิงได้ 2 ประตูเท่านั้น

โดยหลังจากนั้นในตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว 2016-2017 “เดปาย” ก็ย้ายมาอยู่กับ “ลียง” ถึงปัจจุบัน ลงสนามรวมทุกรายการ 141 นัด ยิงไป 58 ประตู ฟอร์มของ เดปาย ร้อนแรงจนช่วยให้ลียงเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019-2020

ตอนนี้ศูนย์ชาวดัตช์ วัย 26 ปี กำลังได้รับความสนใจจาก บาร์เซโลนา คาดว่ามีค่าตัวอยู่ที่ 25 ล้านปอนด์

ราดาเมล ฟัลเกา

“ราดาเมล ฟัลเกา” คือกองหน้าที่อันตรายที่สุดคนหนึ่งในยุโรปสมัยที่ลงเล่นให้ เอฟซี ปอร์โต, แอตเลติโก มาดริด และ ช่วงแรกที่โมนาโก

หลังจากนั้นเจ้าตัวย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวจาก โมนาโก เดือนกันยายน ปี 2014 แต่โชคร้ายที่ต้องบาดเจ็บหนักส่งผลกระทบต่อฟอร์มทำให้ลงเล่นทุกรายการ 29 นัดยิงไป 4 ประตู ก่อนที่จะถูกเชลซี ยืมตัวไปใช้งาน

อย่างไรก็ตาม ฟัลเกา กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งกับโมนาโก เมื่อในฤดูกาล 2016-2017 ช่วยให้ โมนาโก คว้าแชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส แถมในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ยังพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ต้องแพ้ต่อ ยูเวนตุส ซึ่งในรอบ 16 ทีม โมนาโก ยังเขี่ย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกรอบอีกด้วย

ปัจจุบัน ฟัลเกา ค้าแข้งอยู่ที่ กาลาตาซาราย ประเทศตุรกี ฤดูกาลที่ผ่านมาลงเล่นไป 22 นัด ทำไป 11 ประตู

ไมเคิล คีน

“ไมเคิล คีน” เติบโตมาจากอะคาเดมีของ ปิศาจแดง ตั้งแต่ปี 2004-2011 อยู่กับทีมตั้งอายุ 11 ปี ก่อนจะได้สัญญานักเตะอาชีพเมื่ออายุ 18 ปี โดย คีน ลงสนามให้ แมนฯยูฯ ไปเพียง 5 นัด ตลอดการอยู่กับทีมชุดใหญ่ ปี 2011-2015 ซึ่งระหว่างนั้นปล่อยให้ เลสเตอร์ ซิตี้, ดาร์บี้ เคาน์ตี้, แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส และเบิร์นลีย์

สุดท้ายเป็น เบิร์นลีย์ ที่เซ็นสัญญาถาวรมาร่วมทีมปี 2015 จนกระทั่ง ปี 2017 ถูกเอฟเวอร์ตัน ซื้อมาร่วมทีม ปัจจุบัน กองหลังวัย 27 ปี เป็นกำลังสำคัญในยุคของ คาร์โล อันเชลอตติ ซึ่งนัดล่าสุด ยังทำประตูให้กับทีม ในเกมชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 5-2 รวมทั้งติดทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 10 นัด ยิงไป 1 ประตู

แดนนี ดิงค์วอเตอร์

“แดนนี ดิงค์วอเตอร์” อยู่ในอะคาเดมีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 9 ปี ได้รับสัญญานักเตะอาชีพ ปี 2008 อยู่กับทีมถึง ปี 2012 โดยไม่ได้ลงสนามให้ทีมปิศาจแดงแม้แต้นัดเดียว

จนกระทั่งย้ายมาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ สุดท้ายเขาคือหนึ่งในตำนาน ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-2016 ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เชลซี ปี 2017 แม้ว่าปัจจุบันจะไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่ง เหมือนสมัยอยู่กับเลสเตอร์ (218 นัด 14 ประตู) แต่อย่างน้อยก็เคยจารึกชื่อว่าสัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาแล้ว

อังเคล ดิ มาเรีย

“อังเคล ดิ มาเรีย” สร้างชื่อจาก เบนฟิกา ก่อนถูก เรอัล มาดริด ดึงมาร่วมทีม ปี 2010 ประสบความสำเร็จมากมายกับราชันชุดขาว เคยจารึกชื่อว่าเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2013 -2014 เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-1

ปีกชาวอาร์เจนไตน์ ย้ายมาอยู่กับ แมนฯยูฯ ปี2014 ถูกคาดหวังว่าจะช่วยปลุกให้ปิศาจแดงกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง หลังการวางมือของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ฟอร์มตรงกันข้าม ดิ มาเรีย ค้าแข้งในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดเพียงแค่ฤดูกาลเดียว ลงสนาม 32 นัด 4 ประตู

ในปี 2014 ดิ มาเรีย ย้ายมาอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง คว้าแชมป์ลีก เอิง 4 สมัย ล่าสุดเกือบพาทีมได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลล่าสุด แต่แพ้ บาเยิร์น มิวนิก ไปฉิวเฉียด 0-1 ถึงตอนนี้ ดิ มาเรีย อยู่กับ เปแอสเช เข้าฤดูกาลที่ 6 ลงเล่นไปทุกรายการรวม 224 นัด ยิงไป 83 ประตู

วิลฟรีด ซาฮา

“วิลฟรีด ซาฮา” สร้างชื่อจากคริสตัล พาเลซ ก่อนถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดึงมาร่วมทีม ปี 2013 โดยก่อนย้ายมาทีมปิศาจแดง ซาฮา ลงเล่นให้พาเลซ 143 นัด ยิงไป 18 ประตู

แต่ช่วงเวลาที่อยู่กับแมนฯยูฯ แนวรุกทีมชาติอังกฤษ ลงเล่นไปเพียง 4 นัดเท่านั้น ก่อนจะย้ายกลับมา คริสตัล พาเลซ ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ซาฮา โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ลงเล่นไป 221 นัด ยิงไป 42 ประตู ซึ่งแฟนผีแดงคงเจ็บปวดใจไม่น้อยเพราะล่าสุด ซาฮา เพิ่งยิง 2 ประตูใส่ทีม ประเดิมนัดแรก ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่แมนฯยูฯ แพ้คาบ้านต่อ คริสตัล พาเลซ 1-3

อย่างไรก็ตาม ซาฮา วัย 27 ปี นอกจากจะได้รับความสนใจจากทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้ว บรรดาทีมในยุโรปต่างให้ความสนใจเช่นกันทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

เคราร์ด ปิเก

“เคราร์ด ปิเก” เป็นเด็กในอะคาเดมีของบาร์เซโลนา ตั้งแต่ปี 1997-2004 ก่อนจะย้ายมาอยู่ในอะคาเดมีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2004 และได้รับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปีนั้น แต่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับทีมชุดใหญ่ได้

จนกระทั่งปี 2008 ย้ายกลับมาบาร์เซโลนา หลังจากนั้น ปิเก ก็สร้างชื่อคว้าแชมป์ต่างๆได้มากมาย ลาลีกา 7 สมัย, โกปา เดล เรย์ 6 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 3 สมัย และ สโมสรโลก 3 สมัย

อย่างไรก็ตาม ปิเก ก็เคยมีชื่ออยู่ในชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2007-2008 แม้ว่าตลอดเวลาที่อยู่กับแมนยูฯ จะลงสนามไปเพียง 12 นัด

ทิม ฮาวเวิร์ด

“ทิม ฮาวเวิร์ด” ย้ายจาก เมโทร สตาร์ส หรือชื่อใหม่ นิวยอร์ก เรด บูลส์ ทีมในสหรัฐอเมริกา มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2003 เพื่อเข้ามาเป็นมือหนึ่งแทนที่ของ ฟาเบียง บาร์กเตซ ก่อนเปิดตัวได้สวยงามในเกมแรกให้ปิศาจแดง ด้วยการเซฟจุดโทษ ศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ อาร์เซนอล

แต่ในปี 2004 ฮาวเวิร์ด ทำพลาดรับบอลหลุดมือในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก พบ ปอร์โต จนต้องตกรอบ ส่งผลต่อความมั่นใจจนหลุดจากมือหนึ่ง จนกระทั่งการมาของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปี 2005 ทำให้ ฮาวเวิร์ด ถูกเอฟเวอร์ตัน ยืมตัวไปใช้งาน ฤดูกาล 2006-2007 ก่อนที่ทอฟฟี่สีน้ำเงินจะซื้อขาดถาวร อยู่กับทีมจนถึงปี 2016 ลงเล่น 414 นัด แถมยิงได้ 1 ประตู ในฤดูกาล 2011-2012 เกมที่ชนะ โบลตัน จังหวะเปิดบอลยาว บอลกระดอนข้าม อดัม บ็อกดาน เข้าไปประตูไป

ดิเอโก ฟอร์ลัน

“ดิเอโก ฟอร์ลัน” ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2002 แต่ฟอร์มฝืด แม้ว่าจะอยู่ในชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2002-2003 ลงเล่นไป 98 นัด ยิงไป 17 ประตู

จากนั้นย้ายไปอยู่กับบียาร์เรอัล ปี 2004 ถึง 2007 ลงเล่น 128 นัด ทำไป 59 ประตู ก่อนจะถูก แอตเลติโก มาดริด ดึงมาร่วมทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงปี 2011 ทำไป 96 ประตูจากการลงเล่น 196 นัด ขึ้นแท่นเป็นตำนานทั้ง 2 ทีม อีกทั้งสามารถคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของยุโรปถึง 2 ครั้ง ฤดูกาล 2004-2005, 2008-2009

โรเมลู ลูกากู

“โรเมลู ลูกากู” ถือเป็นกองหน้าที่อันตรายคนหนึ่งในศึกพรีเมียร์ลีก สร้างชื่อกับ เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่ปี 2014-2017 ด้วยผลงาน 166 นัด 87 ประตู ก่อนที่ โชเซ มูรินโญ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะดึงตัวมาร่วมทีม เดือนกรกฎาคม ปี 2017

ช่วงแรกดาวยิงชาวเบลเยียมยังได้รับโอกาสลงสนาม แถมโชว์ฟอร์มได้ดีฤดูกาลแรก ยิงรวมทุกรายการ 27 ประตู จาก 51 นัด แต่การเข้ามาของ โอเล กุนนาร์ โซลซาร์ จับ ลูกากู ไปเล่นปีก ซึ่งเจ้าตัวไม่พอใจจุดนี้ขึงตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน เดือนสิงหาคม ปี 2019

เพียงแค่ฤดูกาลแรก ลูกากู ก็ระเบิดฟอร์ม ยิงใน กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ไป 23 นัด รั้งอันดับ 3 ดาวซัลโวของลีก ส่วนใน ยูโรป้า ลีก ยิงไป 7 ประตู เป็นรองดาวซัลโวของรายการนี้ แต่ไม่สามารถช่วย อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ได้

เรื่อง : ต้อม บางบอน

กราฟิก : Taechita Vijitgrittapong 

Credit : https://www.thairath.co.th/