แซงหงส์ยึดฝูง แวร์เนอร์เลิกฝืด เชลซีคืนฟอร์มอัดเซาธ์แฮมป์ตัน 10 คน

เบน ชิลเวลล์ แก้ตัวจากความผิดพลาดทำทีมเสียจุดโทษ ก่อนจะมาซัดประตูตอกฝาโลงพา เชลซี เปิดรังเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 3-1 ช่วยให้ “สิงห์บลูส์” แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2564 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง เชลซี ทีมอันดับ 3 พบ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 16 ของตาราง

เปิดฉากครึ่งแรกมาได้ 9 นาที เชลซี ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา รูเบน รอฟตัส-ชีก โขกชงมาที่เสาไกลให้ เทรโวห์ ชาโลบาห์ สอดมาพุ่งโหม่งโล่งๆเข้าประตูไป หลังจากนั้นนาทีที่ 21 เซาธ์แฮมตัม เกือบตามตีเสมอ ธีโอ วัลค็อตต์ ไหลบอลให้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ตั้งป้อมกดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งเฉียดเสาแรกออกไปนิดเดียว เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาทีที่ 22 เชลซี เกือบได้ลูกสอง รูเบน รอฟตัส-ชีก ตวัดวอลเลย์ด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลข้ามคานไปนิดเดียว นาทีที่ 29 เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้าย เชลซี เติมขึ้นมาลากตัดเข้าในแล้วยิงยัดเสาแรกแต่ไปเข้าซอง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ จากนั้นนาทีที่ 33 ทัพ “นักบุญ” ได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง   เปิดมาหน้าปากประตูให้ ธีโอ วัลค็อตต์ ชิงตัดหน้า ติอาโก้ ซิลวา โหม่งได้ก่อนแต่โดนบางเกินไปบอลผ่านหน้าปากประตูออกไปหวุดหวิด ถัดมานาทีที่ 36 เชลซี เกือบได้ลูกสองเมื่อ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เติมขึ้นมาแล้วจ่ายทะลุช่องให้ โรเมลู ลูกากู หลุดมาซัดด้วยซ้ายเข้าประตูไป แต่มีธงจากผู้ช่วยผู้ตัดสินมาก่อน นาทีที่ 41 คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ ขึ้นโหม่งโล่งๆส่งบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR จะริบประตูคืนเนื่องจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า มีจังหวะไปทำฟาวล์ก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรก เชลซี นำ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0

กลับมาต่อครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 59 เซาธ์แฮมป์ตันไล่ตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เบน ชิลเวลล์ ไปทำฟาวล์ใส่ วาเลนติโน่ ลีฟราเมนโต้ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ทันที ก่อนจะเป็น เจมส์ วอร์ด-เพราส์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมตามตีเสมอ เชลซี หลังจากนั้นนาทีที่ 72 เชลซี ชวดขึ้นนำอีกครั้งแบบเหลือเชื่อเมื่อ โรเมลู ลูกากู ตอกส้นให้ ติโม แวร์เนอร์ กระชากเข้าเขตโทษหลุดเดี่ยวก่อนซัดด้วยขวาเน้นๆ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งมาได้ อย่างไรก็ตามนาทีที่ 77 เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ไปเข้าสัดหนักใส่ จอร์จินโญ่ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะย้อนดู VAR ด้วยตัวเองแล้วกลับมาให้ใบแดงกับมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษ นาทีที่ 80 เมสัน เมาท์น ตัวสำรองได้ซัดด้วยขวาในเขตโทษแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ รับเข้าซอง จนกระทั่งนาทีที่ 84 เชลซี ที่ตัวผู้เล่นมากกว่าได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า หลุดมาถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดเรียดเข้ากลางให้ ติโม แวร์เนอร์ เข้าแท็บอินง่ายๆเข้าไป เท่านั้นไม่พอท้ายเกม นาทีที่ 89 เชลซี นำห่างเป็น 3-1 เมื่อ เบน ชิลเวลล์ ตามซ้ำดาบสองโล่งๆ แม้ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ จะเซฟออกมาได้ แต่บอลข้ามเส้นเข้าประตูไปแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 ขยับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ (GK), เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เบน ชิลเวลล์, รูเบน รอฟตัส-ชีก (รอสส์ บาร์คลีย์ น.83), เทรโวห์ ชาโลบาห์, มัตเตโอ โควาซิช (จอร์จินโญ่ น.73), คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย (เมสัน เมท์น), ติโม แวร์เนอร์, โรเมลู ลูกากู

เซาธ์แฮมป์ตัน : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ (GK), วาเลนติโน่ ลีฟราเมนโต้, แยน เบ็ดนาเร็ก, โมฮาเหม็ด ซาลิซู, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, นาธาน เตลล่า (มุสซ่า เฌเนโป น.73), โอริโอล โรเมว, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, ธีโอ วัลค็อตต์ (อิบราฮิม่า ดิยัลโล่ น.46), เนธาน เร้ดม่อน, อดัม อาร์มสตรอง