ฟีร์มีโน่ลงยิง,เด็กเพียบ! คาด11ตัวจริงลิเวอร์พูล เกมปะทะ เลสเตอร์
คืนวันพุธนี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมลงทำศึก คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยจะเปิดรัง แอนฟิลด์ ดวลกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งแน่นอนว่า เกมนี้กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะให้โอกาสกลุ่มแข้งสำรอง รวมถึงเด็กจากอคาเดมี่ได้โชว์ฝีเท้ากันเต็มที่ เพราะผู้เล่นตัวหลักหลายคนเจอทั้งปัญหาบาดเจ็บและติดเชื้อไวรัส “โควิด-19” และนี่คือไลน์อัพ 11 ผู้เล่นตัวจริง 2 รูปแบบ ที่ คล็อปป์ น่าจะเลือกใช้งานในเกมนี้ (อ้างอิงจาก thisisanfield.com)
– จับตาเจ้าหนู “ควานซาห์”
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ยังคงต้องกักตัว เพราะติด “โควิด-19” ส่วน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ยังไม่หายเจ็บ (กระดูกโหนกแก้มร้าว) ขณะที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ และ โฌแอล มาติป น่าจะได้พักแข้งเพื่อเติมความสด ดังนั้นเกมนี้ คล็อปป์ คงจะเลือกใช้งาน โจ โกเมซ สตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก แต่ที่น่าสนใจคือคู่ขาของ โกเมซ ซึ่งมีโอกาสเป็นปราการหลังดาวรุ่งร่างโย่งวัย 18 ปี อย่าง จาเรลล์ ควานซาห์ ที่จะได้รับโอกาสลงเล่นทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ส่วนแบ็กขวาคงจะถูกครองโดย เนโก วิลเลี่ยมส์ แต่แบ็กซ้ายนั้น ถึงแม้ คอสตาส ซิมิกาส พร้อมลุย ทว่า คล็อปป์ อาจจะเลือกให้โอกาส โอเว่น เบ็ค ดาวรุ่งชาวเวลส์วัย 19 ปี ได้โชว์ฝีเท้า โดยตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็น ควีวิน เคลเลเฮอร์ แน่นอน
สำหรับแดนกลาง ไทเลอร์ มอร์ตัน มิดฟิลด์อนาคตไกล คงได้รับโอกาสลงเล่นต่อเนื่อง โดยจะยืนเป็นตัวรับ ขนาบข้างด้วยสองแข้งรุ่งพี่อย่าง เจมส์ มิลเนอร์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ส่วนสามประสานแนวรุกนั้น โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เพิ่งหายเจ็บ มีโอกาสสูงมากที่จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง เพราะ ดิว็อค โอริกี้ ยังไม่หายเจ็บเข่า โดยมี ทาคุมิ มินามิโนะ ลุยทางด้านซ้าย และเจ้าหนู เคด กอร์ดอน เล่นฝั่งขวา เนื่องจาก คล็อปป์ จะใช้โอกาสนี้พักแข้งตัวหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่
– สตาร์ท “โกนาเต้-ซิมิกาส”
แม้เป็นเกมที่ไม่เน้นมาก แต่แน่นอนว่า คล็อปป์ ก็ไม่อยากแพ้เช่นกัน ดังนั้นเจ้าตัวอาจจะเลือกให้แนวรับดูแข็งแกร่งและเก๋าเกมไว้ก่อน โดยใช้ ซิมิกาส สตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้าย เช่นเดียวกับ โกนาเต้ ที่อาจได้ยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ โกเมซ ส่วน วิลเลี่ยมส์ กับ เคลเลเฮอร์ ยังไงก็ได้เล่นเป็นตัวจริงเกมนี้แน่นอน
นอกนั้นในแดนกลางและแนวรุกคงไม่เปลี่ยนไปจากแบบแรก เนื่องจากมีความลงตัวดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ฟีร์มีโน่ คงจะใช้เกมนี้เรียกความเฉียบคม หลังเพิ่งฟื้นตัวจากปัญหาบาดเจ็บ และลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมลีก 2 นัดล่าสุดที่เจอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์