ยุโรปชัวร์กว่า “โครเอเชีย” เฉือนชนะ “โมร็อกโก” คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022
![](https://football2goal.com/wp-content/uploads/2022/12/news-football-18-DEC-2022-2.jpg)
“ครั้งที่ 2 ในรอบ 24 ปี” โครเอเชีย อาศัยทีเด็ดที่เหนือกว่า เฉือนชนะ โมร็อกโก คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
วันที่ 17 ธันวาคม 2565 ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงอันดับ 3 เวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู 24 และ พีพีทีวี เป็นเกมที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม เมืองอัล รายยาน ประเทศกาตาร์ “รองแชมป์เก่า” ทีมชาติโครเอเชีย อันดับ 12 ของโลก พบกับ “ม้ามืดแห่งทัวร์นาเมนต์” ทีมชาติโมร็อกโก อันดับ 22 ของโลก
เกมนี้ โครเอเชีย ปรับทัพถึง 5 ตำแหน่ง โดยเน้นความสดในแนวรุกทั้ง ลอฟโร มาเยอร์, มิสลาฟ ออร์ซิช และ มาร์โก ลิวายา แต่ยังมี ลูกา โมดริช กับ มาเตโอ โควาชิช 2 จอมเก๋าคุมแดนกลาง ขณะที่ โมร็อกโก ขาดแนวรับตัวหลักถึง 3 ราย ทำให้ต้องเปลี่ยนผู้เล่น 5 ตำแหน่งจากรอบรองชนะเลิศ แต่แนวรุกยังใช้ 3 ประสาน ฮาคิม ซิเยค, ยุสเซฟ อ็อง-เนซีรี กับ โซฟิยาน บูฟาล
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aoUcbUI12NEY9UnZoDJ3MOPv2vt8AF.jpg)
นาทีที่ 7 โครเอเชีย ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากการเล่นลูกสูตรฟรีคิก ลอฟโร มาเยอร์ วางเข้าเขตโทษให้ อิวาน เปริซิช โหม่งสะบัดเข้ากลาง ยอสโก กวาร์ดิโอล พุ่งโขกเน้นๆ บอลเบียดเสาเข้าไป
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aoUcbUI12NEY9UnZ3jUWpw82DqUg8Z.jpg)
แต่แค่นาทีที่ 9 โมร็อกโก ก็ตามตีเสมอ 1-1 ได้ทันควัน ฮาคิม ซิเยค เปิดฟรีคิกเข้ามา ลอฟโร มาเยอร์ โหม่งสกัดไม่ดี บอลไปตกใส่ อัชราฟ ดารี โถมเข้ามาโหม่งจ่อๆ ตุงตาข่าย
นาทีที่ 24 โครเอเชีย ที่หาจังหวะทำประตูได้จะแจ้งกว่า มีลุ้นจาก ลูกา โมดริช ที่ล็อกเข้าซ้ายแล้วยิงเรียดทะลุตัวบล็อก โมร็อกโก แต่ ยาสซีน บูนู ยังล้มตัวเซฟจังหวะแรก ก่อนตามมาปัดทิ้งจังหวะสองเอาไว้ได้
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aoUcbUI12NEY9UnZzhFBJ7XOT1FKhv.jpg)
นาทีที่ 42 เกมรับของโมร็อกโกไปเสียบอลง่ายๆ หน้าเขตโทษ ก่อนที่ มาร์โก ลิวายา จะป้ายต่อไปทางซ้ายให้ มิสลาฟ ออร์ซิช บรรจงปั่นโค้งหนีมือ ยาสซีน บูนู บอลเช็ดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ โครเอเชีย นำ 2-1 ก่อนจบครึ่งแรก
ครึ่งหลัง นาทีที่ 47 โครเอเชีย เกือบได้ประตูที่ 3 จากการเปิดเกมรุกเล่นงาน โมร็อกโก แบบไม่ทันตั้งตัว แต่ มิสลาฟ ออร์ซิช ซัดบอลไปเข้าข้างตาข่าย
โมร็อกโก ยังหาโอกาสเล่นงาน โครเอเชีย แทบไม่ได้ และเกือบเสียประตูที่ 3 อีกด้วยในนาทีที่ 87 จากจังหวะเลี้ยงลุยเข้าไปยิงของ มาเตโอ โควาชิช บอลผ่านมือ ยาสซีน บูนู และแนวรับไปแล้ว แต่บอลเฉี่ยวเสาสองออกหลังไป
เวลาที่เหลือ โมร็อกโก ไล่ตีเสมอไม่สำเร็จ จบเกม โครเอเชีย เฉือนชนะ 2-1 คว้าอันดับ 3 ได้เป็นครั้งที่ 2 ต่อจากฟุตบอลโลก 1998 ส่วน โมร็อกโก จอมเซอร์ไพรส์ประจำทัวร์นาเมนต์นี้ มาไกลที่สุดเพียงอันดับ 4
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
โครเอเชีย (ระบบ 4-2-3-1) : โดมินิค ลิวาโควิช (ผู้รักษาประตู) – โยซิป สตานิชิช, โยซิป ซูตาโล, ยอสโก กวาร์ดิโอล, อิวาน เปริซิช – ลูกา โมดริช (กัปตันทีม), มาเตโอ โควาชิช – อันเดรจ์ ครามาริช, ลอฟโร มาเยอร์, มิสลาฟ ออร์ซิช – มาร์โก ลิวายา
โมร็อกโก (ระบบ 4-3-3) : ยาสซีน บูนู (ผู้รักษาประตู) – อัชราฟ ฮาคิมี, จาวัด เอล ยามิค, อัชราฟ ดารี, ยาเฮีย อัตติยาต อัลลาห์ – อับเดลฮามิด ซาบิรี, โซเฟียน อัมราบัต (กัปตันทีม), บิลาล เอล คันนูส – ฮาคิม ซิเยค, ยุสเซฟ อ็อง-เนซีรี, โซฟิยาน บูฟาล