ยิงกันไฟแลบรวมหกตุง แมนยูบู่หนักโดน เลสเตอร์ขยี้เละ 4-2

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสร้างความผิดหวังให้กับสาวกอย่างต่อเนื่องเมื่อออกไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ โดยที่ได้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ หายเจ็บกลับมาคุมแนวรับ แต่รูปเกมไม่เอาอ่าว เสียสถิติแพ้นอกรังจนได้ถูก เดอะ ฟ็อกซ์ ขยี้เละ 4-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม ส่งผลให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ ผีแดง เก้าอี้ร้อนหนักขึ้นตามระเบียบ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่แปด ประจำวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 13 ของตารางซึ่งชนะแค่สองจากเจ็ดนัดหลังเปิดบ้าน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ฟาดเกือกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสี่ที่มีผลงานในลีกสองนัดหลังไม่สู้ดี เก็บได้แค่แต้มเดียวเท่านั้น 

เริ่มเกมครึ่งแรก เลสเตอร์ เริ่มเกมได้อันตรายเป็นฝ่ายบุกใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างน่าเสียวไส้ และสบโอกาสทักทายแบบเป็นน้ำเป็นเนื้อก่อนในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน พลิ้วไปรับบอลริมเขตโทษด้านซ้ายแล้วพลิกยิงทันที แต่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงสำหรับ ดาบิด เด เคอา ขยับมาอีกสี่นาที ปีศาจแดง ได้ลุ้นเช่นกันเมื่อ เมสัน กรีนวู้ด ขยับขึ้นด้านขวาประสานงานกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แล้วสลัดหนี อีแวนส์ ได้ แต่จังหวะจบระยะ 20 เบาเกินไป แถมส่งบอลไปให้ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับสบาย อย่างไรก็ดี นาทีที่ 19 กรีนวู้ด ก็แผลงฤทธิ์จนได้ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมานำ 1-0 จากจังหวะรับบอลสั้นจาก แฟร์นันด์ส แล้วกระชากจากกราบขวาตัดเข้าในมากระทุ้งเต็มเกือกหน้าเขตโทษส่งบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาสองอย่างแม่นยำ สุดที่ ชไมเคิ่ล จะเซฟได้หลังตาข่ายขาด เดอะ ฟ็อกซ์ ก็เดินเกมรุกเต็มสูบ แต่เกือบเสียหายเพิ่มในนาทีที่ 28 เมื่อ อาคันตุกะโต้ขึ้นมาอันตรายก่อนที่ เจดอน ซานโช่ จะตบบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ โรนัลโด้ ได้เข่นแถวกลางประตูระยะ 16 หลาถูก ชไมเคิ่ล ผวาปัดได้อย่างหวุดหวิดและแล้วนาทีที่ 31 เลสเตอร์ ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ แฟนบอล เดอะ ฟ็อกซ์ ก็ได้กระโดดตัวลอย จากจังหวะที่ทีมเยือนมอบของขวัญให้โดยที่ แม็กไกวร์ ยึกยักรับบอลผ่านสั้นๆจาก เด เคอา ช้าเกินเหตุทำให้โดน เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ฉกไปป้ายให้ ยูริ ตีเลมันส์ โชว์ความเหนือชั้นตักยิงบอลโด่งจากเส้น 18 หลาย้อยเสียบใต้เพดานที่เสาไกลชนิดที่ เด เคอา ได้แต่ผวามองเจ้าบ้านมีความความมั่นใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และน่าจะแซงนำได้ด้วยซ้ำในนาทีที่ 40 เมื่อ ตีเลอมันส์ ไหลบอลขึ้นหน้าให้ อีเฮียนาโช่ ซัลโวระยะ 20 หลาเฉี่ยวกรอบไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกสกอร์จึงเป็น 1-1

เกมครึ่งหลังผ่านมาแค่นาทีเดียว ปีศาจแดง เกือบเสียหายเพิ่มเมื่อ ตีเลอมันส์ เบียดแย่งบอลได้แล้วไหลจากกราบขวาเข้ากลางให้ อิเฮียนาโช่ ได้ง้างยิงระยะอันตราย แต่ เด เคอา ล้มตัวตะปบได้สำเร็จแมนฯ ยูไนเต็ด พยายามรวบรวมสมาธิตั้งลำกันใหม่ แต่นาทีที่ 52 ลินเดอเลิฟ ก็รับใบเหลืองเป็นรายแรกจากการทำฟาวล์ใส่ เจมี่ วาร์ดี้  แถมเสียฟรีคิกระยะ 27 หลากลางประตู แมดดิสัน จึงขอตะบัน แต่ส่งบอลปะทะกำแพงอย่างไรก็ดี นาทีที่ 55 ปีศาจแดง ได้เสียวจากจังหวะบอลขลุกขลิกแล้ว เนมานย่า มาติช ได้เก็บตกระยะ 20 หลา แต่บอลเหินข้ามคานแค่คืบเดียวเท่านั้นถึงตรงนี้ เกมโดยรวมของ เลสเตอร์ ยังดูเข้าท่ากว่า แต่นาทีที่ 65 ทีมเยือนน่าจะได้ประตูอย่างที่สุดเมื่อ แฟร์นันด์ส ตามไปเก็บบอลด้านขวาแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ โรนัลโด้ ซัดติดบล็อค บอลกระดอนมาเข้าทางให้ กรีนวู้ด ซ้ำเผาขนโดน ชไมเคิ่ล ทิ้งตัวใช้ขาสกัดได้ ก่อนที่ โซลชา จะเปลี่ยน แรชฟอร์ด ลงไปแทน ซานโช่จากนั้นในนาทีที่ 73 เลสเตอร์ ก็ปล่อย อโยเซ่ เปเรซ ลงเล่นแทน แมดดิสัน และน่าจะได้ประตูนำในนาทีที่ 76 โดยที่ มาติช เสียบอลให้ แล้ว ตีเลอมันส์ ได้ซัลโวจาก 16 หลาโดน เด เคอา ปัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่ เดอะ ฟ็อกซ์ จะส่ง แพตสัน ดาก้า ลงไปแทน อีเฮียนาโช่ล่วงมานาทีเดียว ตัวสำรองของเจ้าบ้านเกือบเป็นฮีโร่เมื่อได้บอลจ่ายให้เข่นระยะ 16 หลาติดขา เด เคอา ถึงอย่างนั้นนาทีที่ 79 เลสเตอร์ แซงนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 จากลูกเตะมุมที่ ดาก้า ได้ซัดติดขา เด เคอา อีกหน แต่มี โซยุนคู เข้าซ้ำเผาขนเสาแรกโซลชา อยู่นิ่งไม่ได้แล้ว และส่ง เจสซี่ ลินการ์ด กับ สกออต์ แม็คโทมิเนย์ ลงไปแทน มาติช กับ กรีนวู้ด ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายปีศาจแดง ไม่ยอมตายง่ายๆ และนาทีที่ 82 ปีศาจแดง ไล่เสมอ 2-2 ได้สำเร็จ จากการสาดยาวในแดนตัวเองของ ลินเดอเลิฟ ก็เปิดทางให้ แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวโดยไม่ล้ำหน้าปราดเข้าซัดตุงตาข่ายจากระยะ 16 หลา แต่แล้วนาทีต่อมา ผีแดง ก็ต้องคกตกเมื่อ เจ้าบ้านขยับสกอร์เป็น 3-2 จากจังหวะของ เปเรซ ลากบอลขึ้นทางซ้ายแล้วตบเข้าเขตโทษให้ วาร์ดี้ ซัดเต็มเกือกชนิดที่ เด เคอา ไม่ต้องเซฟช่วงที่เหลือ เดอะ ฟ็อกซ์ มีโอกาสคลำเป้าเพิ่มอีก แต่เฉียดไปเฉียดมา กระทั่งนาทีที่ 86 ป็อกบา ก็โดนชดชื่อข้อหาขวาง ดาก้า ล้มคว่ำก่อนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะถอด อีแวนส์ ออกช่วงสี่นาทีสุดท้ายให้ ยันนิค เวสเตอร์การ์ด ลงเล่นแทน และแล้วในช่วงทดเวลานาทีแรกของทั้งหมดห้านาที เลสเตอร์ ก็ได้ลูกเตะมุมด้านซ้าย แล้วบอลทะลักไปเสาสองให้ ดาก้า ชาร์จเหน่งๆพา สุนัขจิ้งจอก นำห่าง 4-2 ก่อนปลิดชีพ ผีแดง ไปอย่างยอดเยี่ยมด้วยสกอร์นี้โดยอีกสองเกมหน้าของทีมจากโรงละครต้องเจองานช้างในบ้านทั้งบู๊กับ อตาลันต้า ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก และต่อกรกับ ลิเวอร์พูล คู่อริเบอร์หนึ่งในเกมแดงเดือด

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK), ดาเนี่ยล อามาร์เตย์, คักลาร์ โซยุนคู, จอนนี่ อีแวนส์ (ยันนิค เวสเตอร์การ์ด น.86), ทิโมธีย์ กาสตาลเญ่, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ยูริ ตีเลมันส์, บูบาการี่ ซูมาเร่, เจมส์ แมดดิสัน (อโยเซ่ เปเรซ น.73), เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (แพตสัน ดากก้า น.77),  เจมี่ วาร์ดี้ 

แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา (GK), อาร่อน วาน บิสซาก้า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์, เนมานย่า มาติช (สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น.80), ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เมสัน กรีนวู้ด (เจสซี่ ลินการ์ด น.80), เจดอน ซานโช่ (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.65), คริสเตียโน่ โรนัลโด้