ลูกากู-แวร์เนอร์เจ็บคู่ เชลซี กระอักแม้ทุบ มัลโม่ สบายเท้ารั้งรองฝูง
“สิงห์บลูส์” เชลซี กลับเก็บสามแต้มบอลยุโรปถ้วยใหญ่ แม้เกมนี้มีข่าวต้องลุ้นอาการเจ็บของทั้ง “แวร์เนอร์-ลูกากู” ที่ถูกเปลี่ยนออกนัดนี้ จอร์จินโญ่ กดสองจุดโทษ เปิดถิ่นถล่ม มัลโม่ 4-0 รั้งรองจ่าฝูง ในการแข่งขัน ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอช คืนวันพุธที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอช คืนวันพุธที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา “สิงห์บลูส์” เชลซี ฟอร์มในบอลยุโรปเสียหน้านัดก่อน โธมัส ทูเคิ่ล ได้ตัวหลักแดนหลังทั้ง “ซิลวา-รือดิงเกอร์” คุมเกมรับ ใส่ชื่อ “แวร์เนอร์-ลูกากู” ผนึกกำลังซัด มัลโม่ ของ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน ที่ปราชัยสองนัดรวดรายการนี้ มีสตาร์ชื่อคุ้นหู “มาร์ติน โอลส์สัน” รอหยุดแนวรุกเจ้าบ้าน
เปิดฉากเกมมาเพียงห้านาทีแรกของเกม เมสัน เมาน์ท แทงบอลมาให้ โรเมลู ลูกากู หลุดกับดักล้ำหน้า พร้อมปาดจากขวามาในกรอบ 6 หลาหน้าประตู ติโม แวร์เนอร์ แหย่เท้าชาร์จทว่าบอลหลุดกรอบออกหลังทางเสาแรกแบบไม่น่าเชื่อ สามนาทีต่อมา เมสัน เมาน์ท โยนบอลหน้ากรอบเขตโทษทางขวา แนวรับทีมเยือนสกัดทิ้งเข้าทาง โรเมลู ลูกากู ยิงสวนทันทีไปแฉลบหลัง เอริค ลาร์สสัน แนวรับมัลโม่ แต่เพื่อนร่วมทีม โยฮัน ดาห์ลิน ยังไวปัดทิ้งออกหลัง จากนั้นนาทีที่ 9 สิงห์บลูส์นำ 1-0 จนได้ จากจังหวะของ ติอาโก้ ซิลวา ดันสูงมาเก็บบอล ก่อนหยอดมาตรงจุดโทษ และเป็น อันเดรียส คริสเตนเซ่น วอลเลย์บอลตามน้ำกระเด้งพื้นหนีมือนายทวารคู่แข่งตุงตาข่าย นาทีที่ 21 เจ้าบ้านได้เฮอีก ขยับสกอร์เป็น 2-0 จากจังหวะของ โรเมลู ลูกากู โชว์ความแกร่งเลี้ยงแหวกผู้เล่นทีมเยือน ก่อนโดน ลาสเซ่ นีลเซ่น เสียบเต็มข้อเท้าในเขตโทษ กรรมการชี้จุดโทษทันที จอร์จินโญ่ สังหารไม่เหลือ ทว่าต้องแลกกับการเสีย โรเมลู ลูกากู ที่บาดเจ็บเล่นไม่ไหว ผ่านมาถึงนาทีที่ 31 เมสัน เมาน์ท ตอกส้นคืนให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ส่งบอลมาวงกลมกรอบเขตโทษ เบน ชิลเวลล์ ได้โอกาสตะบันบอลตรงตัวนายทวารทีมเยือน อีกสองนาที ติโม แวร์เนอร์ ไหลบอลทะลุไปที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดเดี่ยวซัดเต็มแรง ทว่าบอลถูก โยฮัน ดาห์ลิน ปัดไว้ได้ แต่ดาวเตะเจ้าถิ่นล้ำหน้าไปจังหวะก่อนหน้านี้ นาทีที่ 41 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จ่ายบอลทำทางให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ สปีดมายิงทางขวาในเขตโทษ นายด่านทีมเยือนปิดมุมดีทุบทิ้งออกหลัง ก่อนอีกสามนาที ติโม แวร์เนอร์ มาเจ็บไปอีกคน หมดครึ่งแรก เชลซี ทิ้งห่าง 2-0
เริ่มครึ่งหลังเพียงสามนาที สิงห์บลู นำเป็น 3-0 จาก คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ลากบอลลุยมาพร้อมจ่ายป้ายไปที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ สบโอกาสยกบอลหนีตัว อิสมาเอล ดิยาวาร่า นายด่านสำรองมัลโม่ที่ออกมาขวางบอลกลิ้งตุงประตูอีกเม็ด เจ้าถิ่นสุดสบาย นาทีที่ 57 เชลซีนำไกล 4-0 จากจังหวะของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ดีดบอลสั้น อันโตนิโอ รือดิงเกอร์ ขึ้นมาสอดรับกำลังจะยิง แต่ดันมี เอริค ลาร์สสัน ชนล้ม เชิ้ตดำมอบจุดโทษที่สองเกมนี้ให้ เชลซี และเป็น จอร์จินโญ่ จัดการเม็ดที่สองสำเร็จ ห้านาทีต่อมา คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย จับบอลโยนยาวลง ก่อนเลี้อยมาทางซ้าย ตัดหาเหลี่ยมปั่นบอลติดเซฟนายด่านทีมเยือน และเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยิงเก็บตกหน้ากรอบเขตโทษเหินข้ามคาน เข้าท้ายเกมนาทีที่ 81 มาร์กอส อลอนโซ่ ครอสบอลด้านขวา บอลเลยบรรดาผู้เล่นทั้งสองทีม เมสัน เมาน์ท รอโขกบอลกดลงพื้นด้านเสาสองบอลออกนอกกรอบไป จบเกม เชลซี ชนะ มัลโม่ 4-0 รั้งรองจ่าฝูง
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ (GK), อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิงเกอร์, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (รีซ เจมส์ น.65), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ซาอูล ญีเกซ น.65), จอร์จินโญ่,เบน ชิลเวลล์ (มาร์กอส อลอนโซ่ น.66), เมสัน เมาน์ท, ติโม แวร์เนอร์ (คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย น.44), โรเมลู ลูกากู (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.23)
มัลโม่ : โยฮัน ดาห์ลิน (อิสมาเอล ดิยาวาร่า น.46) (GK), เอริค ลาร์สสัน, มาร์ติน โอลส์สัน, ฟร้านซ์ บรอร์สสัน, ลาสเซ่ นีลเซ่น, โย อิงเก้ เบอร์เก็ต (นิคลาส มอยซานเดอร์ น.83), บ็องเก้ อินโนเซนต์, อันเดอร์ส คริสเตียนเซ่น (อาดี นาลิช น.58), เซร์คิโอ เปญ่า (เออร์ดัล ราคิป น.58), อันโตนิโอ โชลัค, เวลจ์โก้ เบอร์มานเชวิช (มาลิก อาบูบาการี่ น.46)