เดนมาร์กได้ไปต่อ “โดลเบิร์ก” ยิงอีกกระซวกดับเช็กลิ่วตัดเชือกในรอบ 29 ปี

“โคนม” เดนมาร์ก เดินหน้ามีหวังลุ้นแชมป์อีกสมัยของพวกเขา หลัง “แคสเปอร์ โดลเบิร์ก” กดประตูสองรอบติดต่อกัน นำทีมอัด สาธารณรัฐเช็ก ทะลุลิ่วรอบตัดเชือกในรอบ 29 ปี รอพบ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ วันพุธที่ 7 กรกฎาคมต่อไป ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา “โคนม” เดนมาร์ก รอบก่อนถล่ม เวลส์ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ จัดทีเด็ดแดนหน้า “แคสเปอร์ โดลเบิร์ก” รอสังหาร สาธารณรัฐเช็ก ที่โค่น ฮอลแลนด์ แบบพลิกล็อกพอควร ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ เชื่อใจ “แพทริค ชิค” ล่าสกอร์ลุ้นลิ่วรอบรองชนะเลิศ 

เปิดฉากเกมครึ่งแรกโคนมใช้เพียงห้านาทีนำ 1-0 จากจังหวะของ เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซ่น เปิดเตะมุมทางขวา บอลเลี้ยวมาหา โธมัส เดลานี่ย์ เทคตัวโขกไร้คนประกบระยะ 11 หลากดลงพื้นเด้งผ่านมือ โทมัส วาคลิค ซุกตาข่าย นาทีที่ 13 มิคเคล ดัมส์การ์ด สลัดหลุดแนวรับเช็ก ใช้หัวโหม่งแต่งบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนดีดหนีตัว โทมัส วาคลิค แต่ยังมี วลาดิเมียร์ ซูฟัล ตามมาคุมเส้นเคลียร์ทิ้งได้ เช็กชวดเอาคืนนาทีที่ 22 แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกบอลพลาดถูก โทมัส โฮเลส ดักบอลก่อนลากมาหน้ากรอบเขตโทษ จ่ายเข้าให้ มาร์ติน เบรธเวท ซัดระยะ 6 หลาด้านซ้ายแต่ว่านายด่านโคนมแก้ตัวออกมาปัดทิ้งทัน เข้าช่วงนาทีที่ 35 อันโตนิน บารัค แทงบอลออกมาทางขวา ปีเตอร์ เซฟชิค โยนบอลข้ามมาด้านซ้าย โทมัส โฮเลส ปรี่มาซัดตามน้ำในเขตโทษ บอลพุ่งเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล อีกสามนาทีต่อมา ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ส่งบอลไกลสวนกลับ มิคเคล ดัมส์การ์ด ใช้ความเร็วกระชากเจาะด้านขวาเขตโทษ ก่อนซัดเต็มแรงติดเซฟ โทมัส วาคลิค ทุบทิ้งออกไป โคนมฉีกหนี นาทีที่ 42 เดนมาร์ก หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะของ โยอาคิม เมห์เล่ วิ่งขนานสนามทางซ้าย รับบอลก่อนดีดไซต์ก้อยเท้าขวา แคสเปอร์ โดลเบิร์ก สปีดมารอในเขตโทษแปบอลระยะ 6 หลากองก้นประตูอีกเม็ด

กลับมาต่อครึ่งหลังเพียงนาทีเดียว มิคาล เคอร์เมนชิค ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา รับบอลจากเพื่อน ก่อนลากมาส่องไกลระยะ20 หลา ตรงตัวนายด่านโคนมย่อตัวตะครุบบอลอยู่มือ แถมนาทีถัดมาเช็กได้ลุ้น อันโตนิน บารัค เก็บตกบอลโหม่งชงย้อนมาหน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวหวดเร็วบอลยังถูก แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ปัดออกหลังด้วยปลายนิ้ว แต่แล้วนาทีที่ 49 เช็กไล่ตีไข่แตกตามมาเป็น 1-2 จากจังหวะบอลของ วลาดิเมียร์ ซูฟัล หยอดบอลด้านขวา บอลลอยมาใส่เท้า แพทริค ชิค ตวัดยิงลอดขา ยานนิค เวสเตอร์การ์ด เข้าประตูชนิดที่นายทวารเดนมาร์กหมดสิทธิ์ป้องกัน เกมหยุดลงช่วงขณะเมื่อ ยุสซุฟ โพลเซ่น เลี้ยงบอลลุยมาซัดแต่ว่าปุ่มรองเท้าสตั๊ดไปสะกิดโดนหัว โทมัส ซูเช็ค จนทีมแพทย์ต้องมาปฐมพยาบาทในนาทีที่ 64 อีกห้านาทีต่อมา ยุสซุฟ โพลเซ่น ร่างกายยังฟิตลากบอลเกินครึ่งสนาม มาถึงหน้ากรอบเขตโทษ หาเหลี่ยมยิงเรียดบอลเบาเข้ามือ โทมัส วาคลิค นาทีที่ 78 ดาเนียล วาสส์ ดอดมาทางขวาปาดบอลมาที่ ยุสซุฟ โพลเซ่น ปรี่มาซัดในเขตโทษ แต่เจอความเหนียวของนายทวารเช็กเหินปัดออกไป ช่วงแปดนาทีท้ายเกม ยุสซุฟ โพลเซ่น ตั้งหน้าเท้าแปะบอลไหลไปที่ โยอาคิม เมห์เล่ หลุดเดี่ยวดวลกับ โทมัส วาคลิค ทว่าแข้งโคนมยิงไม่ผ่านตัวนายทวารคู่แข่งชวดโอกาสเบิกสกอร์เพิ่มให้ทีม จบเกม เดนมาร์ก เชือดชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1 ทะลุลิ่วรอบตัดเชือก รอพบ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ วันพุธที่ 7 กรกฎาคมต่อไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

สาธารณรัฐเช็ก : โทมัส วาคลิค (GK), วลาดิเมียร์ ซูฟัล, ออนเดรจ์ เซลุสต์ก้า (ยาคุบ บราเบ็ค น.65), โทมัส คาลาส, ยาน โบริล, โทมัส โฮเลส (ยาคุบ ยังค์โต้ น.46), โทมัส ซูเช็ค,ลูคัส มาโซปุสต์ (มิคาล เคอร์เมนชิค น.46), อันโตนิน บารัค, ปีเตอร์ เซฟชิค (วลาดิเมียร์ ดาริด้า น.80), แพทริค ชิค (มาเตจ์ วีดร้า น.79)

เดนมาร์ก : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK), อันเดรียส คริสเตนเซ่น (โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น น.81), ซิมง เคียร์,ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซ่น (ดาเนียล วาสส์ น.70), ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, โธมัส เดลานี่ย์ (มาธิอัส เยนเซ่น น.81), โยอาคิม เมห์เล่, มาร์ติน เบรธเวท, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก (ยุสซุฟ โพลเซ่น น.59), มิคเคล ดัมส์การ์ด (คริสเตียน นอร์การ์ด น.60)