“ลูกากู” เหมาสอง เบลเยี่ยม ประเดิมสวยยำ รัสเซีย นำฝูงกลุ่มบี ศึกยูโร

สมราคาเต็งแชมป์สำหรับ เบลเยี่ยม ของกุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ หลังลูกทีมรวมพลังยำ รัสเซีย 3-0 จากผลงานงานของ โรเมลู ลูกากู เหมาคนเดียวสองประตู ในศึกฟุตบอล ยูโร 2020 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี) คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้ายนัดที่สองของ กลุ่มบี ประจำวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564 ที่สนาม เซนต์-ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม เมือง เซนต์-ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เป็นการพบกันระหว่าง เบลเยี่ยม พบ รัสเซีย

เปิดฉากครึ่งแรก 10 นาที เบลเยี่ยม ทะยานออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากบอลยาวทางฝั่งขวาครอสเข้าเขตโทษแนวรับ รัสเซีย สกัดไม่ดีปล่อยลอดขาหลุดมาถึง โรเมลู ลูกากู ขยับถอยมาหมุนตัวตวัดด้วยซ้ายเสียบหน้าต่างเสาไกลงามหยด4 นาทีต่อมา รัสเซีย ตอบโต้บ้างจากลูกเตะมุมทางซ้าย อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน วางโค้งเข้าเขตโทษมาตกใส่หัว มาริโอ แฟร์น็องเดส สอดมาโขกเต็มแรงเสียดายไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับไว้ได้ไม่พลาดนาทีที่ 16 รัสเซีย พยายามเร่งเครื่องจากจังหวะวางยาวทางขวาทิ้งเข้าเขตโทษให้ อาร์เต็ม ดซูย์บา เก็บบอลก่อนดีดตั้งให้ มาโกเม็ด ออซโดเยฟ สอดมาซัดด้วยขวาบดเลียดผ่านหน้าประตูออกไปอย่างน่าผิดหวัง ต่อมานาทีที่ 19 เบลเยี่ยม แลกหมัดบ้างคราวนี้ โรเมลู ลูกากู ลากแหวกสวนพาบอลเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงช้าโดน จอร์จี้ ชิคิย่า ทิ้งตัวสกัดก่อนตามไปเก็บตบเข้าในย้อนให้ เลอันเดร์ เดนดองเกอร์ สอดมาแปหน้ากรอบ 6 หลาเหินข้ามคานออกไปไกล 3 นาทีต่อมาแนวรับ รัสเซีย มีปัญหาชัดเจนสกัดบอลผิดเหลี่ยมเด้งมาทางซ้ายเข้าทาง ธอร์กาน อาซาร์ ขยับมาเก็บส้มหล่นซัดตามน้ำหน้ากรอบ 6 หลาไปติดเซฟ อันตัน ชูนิน ออกมาปิดมุมช่วยเอาไว้ได้ทันนาทีที่ 27 เบลเยี่ยม ต้องเปลี่ยนตัวเร็วจากจังหวะปะทะ ทิโมธี กาสตานเย่ มีอาการบาดเจ็บเป็นแผลแตกบริเวณหางตา โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ไม่เสี่ยงตัดสินใจส่ง โธมัส มูนิเยร์ ลงสนามแทนทันทีแต่แล้วนาทีที่ 34 เบลเยี่ยม ขยับหนีเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะครอสทางซ้ายวางลึกเข้าเขตโทษมาถึง อันตัน ชูนิน ชกออกมาไม่ดีเข้าทาง โธมัส มูนิเยร์ แปด้วยซ้ายตามน้ำบอลกระดอนพื้นติดปลายมือ ชูนิน แต่ยังดีพอซุกก้นตาข่าย นาทีที่ 42 เบลเยี่ยม หวิดได้ลูกจุดโทษเป็นจังหวะผิดพลาดของแนวรับ รัสเซีย สื่อสารไม่ดีปล่อยบอลตกมาเข้าทาง โธมัส มูนิเยร์ แหวกเข้าเขตโทษก่อนโดนอัดร่วงลงไป อันโตนิโอ มิเกล มาเตว ลาออซ ชี้ให้เกมดำเนินต่อก่อนเช็ควีเออาร์และยืนยันคำตัดสินช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+4 เบลเยี่ยม โหมบุกอยู่ฝ่ายเดียวจากความสามารถเฉพาะตัวของ ยานนิค การ์ราสโก้ โชว์ลีลาแหวกเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนตัดเข้าในได้ช่องทิ่มด้วยขวาเหินบอลข้ามคานออกไปนิดเดียวหมดครึ่งเวลาแรก เบลเยี่ยม นำ รัสเซีย 2-0

เกมครึ่งหลังใน 55 นาทีเป็น รัสเซีย คึกคักแก้เกมมาได้ดีมีโอกาสลุ้นจากจังหวะยิงไกลของ โรมัน ซ็อบนิน และเป็น อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน สอดมาเก็บบอลทางซ้ายก่อนตัดเข้าในปั่นด้วยขวาก็ยังติดบล็อคแนวรับ เบลเยี่ยม นาทีที่ 70 รูปเกมค่อนข้างอึดอัดระวังตัวด้วยกันทั้งคู่โดยเป็น เบลเยี่ยม ครองบอลมากกว่านิดหน่อยแต่ยังซัดไม่ตรงกรอบ ส่วนทาง รัสเซีย พยายามเร่งเครื่องตีไข่แตกสุดท้ายมาตกม้าตายในจังหวะจบสกอร์ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 88 เบลเยี่ยม มาปิดกล่องเป็น 3-0 จากจังหวะของ โธมัส มูนิเยร์ พาบอลแหวกขึ้นมาแทงช่องให้ โรเมลู ลูกากู ขยับหนีแนวรับ รัสเซีย หลุดเข้าเขตโทษก่อนซัดตามน้ำด้วยขวาผ่านมือ อันตัน ชูนิน เบียดเสาแรกงามหยดช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เบลเยี่ยม ประเดิมสนามชนะ รัสเซีย 3-0

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง

เบลเยี่ยม : ติโบต์ กูร์กตัวส์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เด็ทริค โบยาต้า, แยน แฟร์ทองเก้น (โธมัส แฟร์มาเลน น.77), ทิโมธี กาสตานเย่ (โธมัส มูนิเยร์ น.27), ยูริ ตีเลอมันส์, เลอันเดร์ เดนดองเกอร์, ธอร์กาน อาซาร์, ดรีส์ เมอร์เทนส์ (เอเดน อาซาร์ น.72), โรเมลู ลูกากู, ยานนิค การ์ราสโก้ (เด็นนิส ปราต น.77)

รัสเซีย (4-2-3-1) : อันตัน ชูนิน, มาริโอ แฟร์น็องเดส, อังเดรย์ เซเมนอฟ, จอร์จี้ ชิคิย่า, ยูริ เซียร์คอฟ (วียาเชสลาฟ คาราวาเยฟ น.43), มาโกเม็ด ออซโดเยฟ, ดมีทรี บารีนอฟ (อีกอร์ ดีเวเยฟ น.46), โรมัน ซ็อบนิน (มัคซิม มูฮิน น.63), อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, ดาเลียร์ คูซยาเยฟ (เดนิส เชริเชฟ น.30), (อเล็กเซย์ มิรานชุค น.63), อาร์เต็ม ดซูย์บา