แมนยูฯ ฟอร์มหรูไล่อัด บอร์นมัธ 5-2 ขึ้นที่ 4 ชั่วคราว

“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มร้อนแรง เปิดบ้านเอาชนะ บอร์นมัธ ไปอย่างสุดมัน 5-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 ประจำวันเสาร์ที่ 4 ก.ค. คู่ที่น่าสนใจ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 5 ของตาราง เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด รับการมาเยือนของ “เดอะ เชอร์รีส์” บอร์นมัธ อันดับ 19 ของตาราง

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 11 แมนยูฯ น่าขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด วางบอลยาวขึ้นมาหน้าเขตโทษให้ บรูโน เฟอร์นันเดส กระดกบอลข้ามหัว อารอน แรมสเดล จอมหนึบบอร์นมัธ ข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นนาทีที่ 16 บอร์นมัธ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ จูเนียร์ สตานิสลาฟ แตะบอลลอดขา แฮร์รี แม็คไกวร์ ในเขตโทษก่อนยิงยัดเสาแรกผ่าน ดาบิด เดเคอา เข้าไปเลย

ถัดมา 3 นาที แมนยูฯ ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องทางขวา มาร์คัส แรชฟอร์ด ซัดด้วยขวา บอลพุ่งจะเสียบมุม แต่ อารอน แรมสเดล พุ่งปัดออกไปได้

ถึงนาทีที่ 29 แมนยูฯ ตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อ เนมันยา มาติช วางบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาให้ อารอน วาน บิสซากา จ่ายเข้ากลางให้ บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายต่อมาทางซ้ายให้ เมสัน กรีนวูด พาบอลเข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาด

และในนาทีที่ 35 แมนยูฯ ได้จุดโทษจากจังหวะที่ อดัม สมิธ ผู้เล่นบอร์นมัธทำแฮนด์บอลในเขตโทษ และเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงเรียดเสียบมุมขวามือเข้าไป พาปิศาจแดงขึ้นนำ 2-1

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+1 โอกาสของเจ้าถิ่น บรูโน เฟอร์นันเดส วางบอลยาวขึ้นมาทางฝั่งซ้ายให้ ลุค ชอว์ ลากไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลชนเสาเต็มๆ แต่ถูกจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

กระทั่งนาทีที่ 45+2 แมนยูฯ นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ อองโตนี มาร์เชียล ปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ บอร์นมัธ อยู่ 3-1

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 บอร์นมัธได้ลุ้นก่อนเลย ลูอิส คุก ยิงด้วยขวาจากนอกกรอบ ดาบิด เดเคอา ปัดออกมาเข้าทาง อาเนาต์ แดนจูมา ซ้ำอีกทีบอลชนเสาออกไป

จากนั้นนาทีที่ 50 บอร์นมัธ ได้จุดโทษจากจังหวะที่ เอริก ไบญี ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์และยืนยันเป็นจุดโทษ โจชัว คิง รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พาบอร์นมัธ ไล่มาเป็น 2-3

ถัดมานาทีเดียว บอร์นมัธ เกือบตีเสมอจากจังหวะที่ โจชัว คิง จ่ายบอลให้ อาเนาต์ แดนจูมา หลุดไปยิงตุงตาข่าย แต่โดนจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

ถึงนาทีที่ 54 แมนยูฯ นำห่าง 4-2 จากจังหวะที่ เนมันยา มาติช จิ้มบอลมาให้ เมสัน กรีนวูด พาบอลกระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปเลย

และในนาทีที่ 59 แมนยูฯ หนีไปไกลเป็น 5-2 จากจังหวะได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ บรูโน เฟอร์นันเดส ซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปอย่างเฉียบขาด

นาทีที่ 65 แมนยูฯ เกือบได้ประตูที่ 6 จากจังหวะที่ อารอน วาน บิสซากา ผ่านบอลเรียดจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ มาร์คัส แรชฟอร์ด ชาร์จเข้าไป แต่ถูกจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

ถึงนาทีที่ 85 แมนยูฯ เกือบใส่สกอร์เพิ่ม เมื่อ บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลขึ้นไปทางขวาให้ โอเดียน อิกาโล หลุดไปยิง บอลหลุดกรอบนิดเดียว

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+2 แมนยูฯ ได้ฟรีคิกระยะหวังผล พอล ป็อกบา อาสาปั่นด้วยขวา บอลโค้งจะเสียบมุมแต่ อารอน แรมสเดล ปัดออกไปได้ และในนาทีที่ 90+3 แมนยูฯ ได้ลุ้นอีกครั้ง บรูโน เฟอร์นันเดส ตั้งป้อมซัดไกลด้วยขวา แต่ อารอน แรมสเดล ก็ปัดได้อีกครั้ง

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ บอร์นมัธ 5-2 เก็บเพิ่มเป็น 55 คะแนน แซงเชลซี ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ชั่วคราว

ผลคู่อื่น

นอริช ซิตี้ แพ้ ไบรจ์ตัน 0-1

เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ บอร์นมัธ 5-2

วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ อาร์เซนอล 0-2

เชลซี ชนะ วัตฟอร์ด 3-0

Credit : https://www.thairath.co.th/