ผ่า 4 ประเด็น แมนยูฯ โดน เซาแธมป์ตัน ไล่เจ๊าสุดช็อก

“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงเปิดบ้านโดน เซาแธมป์ตัน ไล่ตีเสมออย่างน่าเจ็บใจ และนี่คือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้

1.รูปเกม
เกมนี้ ยูไนเต็ด ควรจะขึ้นนำก่อนด้วยซ้ำจากจังหวะหลุดเดี่ยวของ อองโตนี มาร์เชียล แต่ก็ยิงไปติดเซฟ จากนั้น พอล ป็อกบา มาทำเสียบอลแถวหน้าเขตโทษก่อนจะถูก สจวร์ต อาร์มสตรอง ซัดให้นักบุญขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 12 แต่เจ้าถิ่นก็ทวงคืนได้ไวจากการยิงของ อองโตนี มาร์เชียล ในนาทีที่ 20 และถัดมา 3 นาที ยูไนเต็ดก็มาแซงขึ้นนำ 2-1 จากมาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วนครึ่งหลังเกมเปิดแลกกันสนุกเลย มีโอกาสทั้งคู่ ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ยูไนเต็ดเริ่มเจอปัญหาเมื่อ ลุค ชอว์ ข้อเท้าขวาพลิกต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป จากนั้นแมนยูฯ น่าทิ้งห่างจากจังหวะที่ มาร์เชียล โซโล่เดี่ยวจากแดนตัวเองไปยิงข้ามคานน่าเสียดาย แต่นักบุญก็เกือบตีเสมอจากจังหวะซัดของ เนธาน เรดมอนด์ แต่ ดาบิด เดเคอา พุ่งปัดออกไปได้ จากนั้นนาทีที่ 90+1 แมนยูเจอปัญหาอีกแล้วเมื่อ แบรนดอน วิลเลียมส์ ที่ลงมาแทน ชอว์ ไปปะทะกับแข้งทีมเยือนจนหัวแตกเล่นต่อไม่ไหว ทำให้เจ้าถิ่นต้องเล่น 10 คน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนเลยก็ว่าได้เพราะต้องเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าและมาเสียลูกเตะมุม ก่อนที่ เจมส์ วอร์ด เพราส์ จะเปิดให้ ไมเคิล โอบาเฟมี โขกพาเซาแธมป์ตันตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+6 ได้แต้มกลับไปจากโรงละครแห่งความฝันหน้าตาเฉย

2. แมนยูฯ ต้องเรียนรู้ที่จะปิดเกมให้ได้
เกมนี้เหมือนกับเกมที่แมนยูฯ พบบอร์นมัธ คือทำได้ไม่ดีพอในช่วงต้นเกมจนเสียประตูให้คู่แข่งก่อน อย่างไรก็ตามพวกเขายังรวมพลังฮึดแซงกลับมาขึ้นนำ 2-1 ได้ก่อนจบครึ่งแรก แต่ข้อผิดพลาดของพวกเขาคือทำประตูที่ 3 ไม่ได้ หรือปิดเกมไม่ได้นั่นเอง และการนำคู่แข่งที่ฟอร์มกำลังดีอย่างเซาแธมป์ตันแค่ลูกเดียวย่อมวางใจไม่ได้ และสุดท้ายยูไนเต็ดก็ถูกลงโทษในที่สุด แม้จะอ้างเหตุผลได้ว่าพวกเขาโชคร้ายที่ต้องมาเหลือ 10 คนท้ายเกม เพราะ แบรนดอน วิลเลียมส์ เล่นต่อไม่ไหว แต่ถ้าพวกเขาปิดเกมให้ได้ ประเด็นนี้ก็คงจะถูกตัดไป

3. เซาแธมป์ตันเพรสซิ่งสูง-โชว์สปิริตนักสู้
เกมนี้ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิลส์ ผู้จัดการทีมเซาแธมป์ตัน วางแท็กติกมาได้ดีมากๆ พวกเขาไล่บีบพื้นที่สูง มีนักเตะถึง 6 คนที่ไล่บี้อยู่ในแดนของยูไนเต็ด ทำให้เจ้าถิ่นขึ้นเกมได้อย่างยากลำบาก แถมยังมีอาการลนลานอย่างเช่นจังหวะที่ พอล ป็อกบา ทำเสียบอลในแดนกลางจนโดนนักบุญฉกไปยิง ทีนี้พอยูไนเต็ดขึ้นเกมจากแดนหลังไม่ได้มันก็เป็นการลดบทบาทของ บรูโน เฟอร์นันเดส ไปได้เยอะเลย จะเห็นได้ว่าบรูโนมีส่วนร่วมกับเกมน้อยกว่าแมตช์ที่ผ่านๆ มา แม้จะได้มา 1 แอสซิสต์ก็ตาม นอกจากนี้อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องชมเซาแธมป์ตันก็คือพวกเขามีหัวจิตหัวใจของนักสู้อย่างแท้จริง แม้ว่าทีมจะไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้ว แต่ก็เล่นกันอย่างเต็มที่จนวินาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บเพื่อแฟนบอลของพวกเขาที่ชมเกมอยู่ทางบ้าน และรางวัลของพวกเขาก็คือ 1 คะแนนนั่นเอง

4.แรชฟอร์ด-มาร์เชียล ฟอร์มเด่น-กรีนวูดเงียบกริบ
นัดนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อองโตนี มาร์เชียล แนวรุกของปิศาจแดงโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะการกระชากบอลเข้าหาคู่แข่งซึ่งได้ดีทั้งคู่ และเกมนี้ก็สามารถทำประตูได้ทั้งสองคน โดยหนึ่งในนั้นมาร์เชียลเป็นคนจ่ายบอลให้ แรชฟอร์ด ทำประตูด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทั้งสองคนต้องพัฒนาต่อไปก็คือความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย เพราะมีโอกาสกันหลายครั้งมากในเกมนี้และน่าจะทำได้มากกว่าคนละหนึ่งประตู ส่วน เมสัน กรีนวูด นัดนี้แทบหายไปจากเกม เพราะโดนคู่แข่งประกบติดและเข้าบอลค่อนข้างหนักหน่วง ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะกระชากลากเลื้อยหรือหาจังหวะส่องประตูอย่างที่เคยทำได้ แต่ถือเป็นเรื่องดีที่เจ้าตัวจะได้เรียนรู้เกมที่มีความอึดอัดแบบนี้เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงพัฒนาฝีเท้าของตัวเองต่อไป

Credit : https://www.thairath.co.th/