5 ครั้งชนะครั้งเดียว อังกฤษลุ้นทำลายอาถรรพ์ตัดเชือกเพื่อกรุยทางสู่นัดชิงยูโร
ค่ำคืนวันพุธที่ 7 กรกฎาคมนี้ อังกฤษ เตรียมทำศึกสำคัญในรอบรองชนะเลิศ ยูโร 2020 โดยทัพ “สิงโตคำราม” ไม่ใช่แค่ต้องดวลกับทัพ “โคนม” เดนมาร์ก เท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับอาถรรพ์รอบตัดเชือกในอดีต
“ทรี ไลอ้อนส์” ผ่านด่านเข้ามาสู่รอบรองฯ ได้สำเร็จเมื่อโชว์ฟอร์มสุดโหดไล่ต้อน ยูเครน สบายเกือก 4-0 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมจะนำบรรดาลูกทีมกลับมาฟาดแข้งในสนามเวมบลีย์อีกครั้ง โดยจะต้องปะทะกับทีมของกุนซือแคสเปอร์ ฮูลมานด์ อย่างไรก็ตามแค่ฝีมืออย่างเดียวมันไม่เพียงพอ เพราะบางครั้งโชคชะตาฟ้าลิขิตก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ เซาธ์เกต รู้ซึ้งเป็นอย่างดีเพราะเขาเคยต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ด้วยตัวเองสมัยที่เป็นนักเตะรับใช้ทีมชาติอังกฤษ
อังกฤษ มีสถิติที่น่าสยดสยองเหลือเกินสำหรับการคำว่า “ฟุตบอลคัมมิ่งโฮม” หรือนำแชมป์ระดับชาติกลับสู่ถิ่นกำเนิดลูกหนัง เพราะความสำเร็จเดียวที่เชิดหน้าชูตาพวกเขาก็คือการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ที่สำคัญพวกเขามีสถิติไม่ค่อยโสภาสถาพรเหลือเกินเพราะได้แชมป์เพียงแค่ครั้งเดียวจากการเข้ารอบรองชนะเลิศในทัวร์เมนต์ระดับเมเจอร์ 5 ครั้ง นี่คือสิ่งที่แฟนบอลอังกฤษ รู้สึกเหมือนว่ามันคืออาถรรพ์ที่หลอกหลอนพวกเขามานานกว่าครึ่งศตวรรษ
ในปี 1966 อังกฤษ เอาชนะ โปรตุเกส 2-1 จากการทำประตูของ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ทั้งสองลูก ซึ่งเป็นการกรุยทางทำให้พวกเขาได้ชูถ้วยจูลส์ ริเมต์ (โทรฟี่แชมป์ฟุตบอลโลกครั้งก่อนเปลี่ยนเป็นถ้วยเวิลด์ คัพในปัจจุบัน) หลังปราบ เยอรมันตะวันตก 4-2 ในนัดชิง หลังจากนั้นดูเหมือน อังกฤษ จะโดนคำสาปร้ายให้ต้องเจ็บช้ำระกำใจในทัวร์นาเมนต์ระดับชาติมาตลอด โดยในศึกยูโร 1968 พวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้ต่อ ยูโกสลาเวีย สกอร์ 0-1 ในรอบรองชนะเลิศ อังกฤษ ต้องรอคอยนานถึง 22 ปีพวกเขาจึงมีโอกาสได้สัมผัสกับคำว่า “รอบตัดเชือก” อีกครั้งในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ ปีนั้นมีการทำศึก “อิตาเลีย 90” หรือฟุตบอลโลก 1990 ที่ดินแดนพาสต้า
“สิงโตคำราม” พ่ายจุดโทษ เยอรมนี 3-4 โดยครั้งนั้น สจ๊วร์ต เพียร์ซ กับ คริส วอดเดิ้ล ยิงไม่เข้า อีก 6 ปีถัดมา อังกฤษ ได้เป็นเจ้าภาพ “ยูโร 96” ซึ่งทีมในเวลานั้นแข็งแกร่งมากๆ และนำทัพโดยกุนซือสมองเพชรเทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์
สำหรับครั้งนี้ เซาธ์เกต ซึ่งปัจจุบันนั่งกุมบังเหียนทีมชาติอังกฤษ เป็นคนยิงจุดโทษไม่เข้าในช่วงดวลซัดเดนเดธทำให้ทีมพ่ายแพ้ให้กับคู่อริร่วมาชาติด้วยสกอร์ 5-6 หลังจากเสมอกันในเวลา 120 นาที 1-1 เวลาผ่านไปอีก 22 ปี แฟนบอลจากเมืองผู้ดียังคงต้องเจอกับอาถรรพ์รอบตัดเชือกอีกครั้ง โดยครั้งนี้ เซาธ์เกต หนึ่งในคนที่เคยเจ็บปวดกับการแพ้จุดโทษ เป็นผู้นำทีมทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกเวิลด์ คัพ 2018 ตอนนี้ เซาธ์เกตแอนด์โค. มีโอกาสได้เข้าไปสู่รอบรองฯ ได้สำเร็จอีกครั้ง และต้องปะทะกับ เดนมาร์ก โดยจะสามารถขีดฆ่าอาถรรพ์ตัดเชือกเพื่อกรุยทางสู่นัดชิงได้หรือไม่ เดี๋ยวทุกคนจะได้รู้