แมนฯ ซิตี้ เฮนาทีสุดท้าย เฉือน ดอร์ทมุนด์ 2-1 ยกแรก 8 ทีม ชปล.
“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูชัยนาทีสุดท้าย เฉือนเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป 2-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020-21 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 6 เม.ย. 64 คู่ที่น่าสนใจ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากบุนเดสลีกา เยอรมนี
เปิดฉากครึ่งแรกเพียงแค่ 7 นาทีเป็น “เสือเหลือง” ทักทายก่อนจากจังหวะประสานงานสุดสวย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดีดต่อให้ จู๊ด เบลลิงแฮม สอดมารับก่อนสับหนี ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้ช่องอัดด้วยซ้ายติดเซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส ตบทิ้งออกมาหวุดหวิด มาถึงนาทีที่ 19 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลในเขตโทษสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนจ่ายเรียดย้อนมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย นาทีที่ 24 ดอร์ทมุนด์ ได้เสียวบ้างคราวนี้เป็น โรดรี้ เอร์นานเดซ เสียบอลหน้าหน้ากรอบเขตโทษโดน เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดักก่อนไหลมาเข้าทาง ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ยกข้ามแนวรับให้ มาร์โก รอยส์ สอดมาเกือบได้ยิงเสียดายแรงไปถึง เอแดร์ซอน โมราเอส ต่อมานาทีที่ 29 จากฟรีคิกทางขวาของ เควิน เดอ บรอยน์ ปั่นบอลเข้าเขตโทษกระดอนมาเสาไกลจากจังหวะนี้ เอ็มเร่ ชาน ยกเท้าดีดส้นไปโดนหัวเข่า โรดรี้ เอร์นานเดซ ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนขอออกมาดู วีเออาร์ และเปลี่ยนใจให้เกมดำเนินต่อไป 7 นาทีต่อมาจากฟรีคิกเกือบ 30 หลาทางซ้ายของ ฟิล โฟเด้น ปั่นบอลโค้งตกพื้นเด้งมาแฉลบ รูเบน ดิอ๊าส เปลี่ยนทางไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์ ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้ นาทีต่อมา “เสือเหลือง” หวิดตีเสมอ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ยกบอลขึ้นมาแรงไปถึง เอแดร์ซอน โมราเอส ออกมานอกเส้นแต่จังหวะเคลียร์ช้าโดน จู๊ด เบลลิงแฮม โฉบมาฉกไปจากเท้าโชคดี ผู้ตัดสิน มองว่าเป็นการฟาวล์ ท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น โหมหนัก รูเบน ดิอ๊าส วางบอลยาวข้ามแนวรับให้ ฟิล โฟเด้น พาลากเข้าเขตโทษก่อนยัดด้วยซ้ายมุมแคบติดเซฟ มาร์วิน ฮิตซ์ ตบทิ้งได้ทันแต่ก็มีธงล้ำหน้ายกขึ้นมาจากข้างสนาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 ดอร์ทมุนด์ พลาดโอกาสทองจากความแข็งแกร่งของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเบียดเอาชนะ รูเบน ดิอ๊าส พาเข้าเขตโทษแต่จังหวะหักข้อด้วยซ้ายติดเท้า เอแดร์ซอน โมราเอส เซฟเอาไว้ได้ นาทีที่ 65 “เรือใบสีฟ้า” พลาดอย่างเหลือเชื่อจากบอลทางขวาของ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดขึ้นมาได้ช่องตบย้อนเข้าในถึง ฟิล โฟเด้น ตั้งเท้าแปด้วยซ้ายหน้ากรอบ 6 หลาไปตรงตัว มาร์วิน ฮิตซ์ นาทีที่ 84 ดอร์ทมุนด์ ตามตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ตวัดบอลขึ้นหน้าให้ มาร์โก รอยส์ พาบอลเข้าเขตโทษก่อนยิงเข้าไปไม่พลาด เกมทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ทว่านาทีที่ 90 แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อิลคาย กุนโดกัน ก่อนจ่ายให้ ฟิล โฟเดน กดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาด
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป 2-1 กุมความได้เปรียบพอสมควร ก่อนจะบุกไปเยือน ดอร์ทมุนด์ ที่สนามซิกนัล อิดูนา พาร์ค ในนัดที่สอง วันที่ 14 เมษายนนี้
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์สัน (GK), ไคล์ วอลเกอร์, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, ชูเอา คันเซโล, โรดรี, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเดน และ แบร์นาร์โด ซิลวา
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : มาร์วิน ฮิตซ์ (GK), มาเตอู โมเรย์, มานูเอล อคานจี, มัตส์ ฮุมเมลส์, ราฟาเอล เกร์เรโร, จู๊ด เบลลิงแฮม, เอ็มเร ชาน, มาห์มูด ดาฮูด, อันส์การ์ คเนาฟ์, มาร์โก รอยส์ และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์