“แมนยูฯ” สุดโหดไล่ถล่ม “ลีดส์” แบบเหนือชั้น 6-2 อันดับพุ่งกระฉูด
“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระเบิดฟอร์มสุดโหดเหี้ยม เปิดบ้านถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-2 เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ประจำวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. 63 คู่ที่น่าสนใจ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 7 ของตาราง เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด รับการมาเยือนของ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด อันดับ 14 ของตาราง
เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 2 นาที แมนยูฯ ขึ้นนำ 1-0 จากจากจังหวะที่ บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลติดไซด์ก้อยพุ่งเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม จากนั้นนาทีที่ 3 แมนยูฯ หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ ทุ่มบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาให้ อองโตนี มาร์เชียล จ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หลุดไปยิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเหนือชั้น ถัดมา 5 นาที โอกาสของลีดส์ เมื่อ โรดริโก โมเรโน จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แพตทริก แบมฟอร์ด ยิงด้วยขวา บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าผิดหวัง และในนาทีที่ 19 ลีดส์เกือบได้ประตู จากจังหวะที่ โรดริโก โมเรโน ซัดไปติดบล็อกกองหลังบอลมาเข้าทาง แพตทริก แบมฟอร์ด ซัดในเขตโทษเข้าไปตุงตาข่าย แต่ แบมฟอร์ด โดนจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ถึงนาทีที่ 20 แมนยูฯ นำห่าง 3-0 จากจังหวะที่ เฟร็ด จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษให้ อองโตนี มาร์เชียล พยายามพาบอลกระชากต่อแต่โดน ลุค อายลิง สกัดบอลมาเข้าทาง บรูโน เฟอร์นันเดส วิ่งมาซัดด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด นาทีที่ 34 ลีดส์เกือบได้เฮ เมื่อ คัลวิน ฟิลลิปส์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ โหม่งสกัดมาเข้าทาง ราฟินญา ซัดเต็มข้อแต่ ดาบิด เดเคอา ใช้ขาเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม นาทีที่ 37 แมนยูฯ นำห่าง 4-0 จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายมาที่เสาแรก อองโตนี มาร์เชียล โหม่งเช็ดมาที่เสาสอง และเป็น วิคตอร์ ลินเดเลิฟ แปจ่อๆ เข้าไป แบบไร้ตัวประกบ นาทีที่ 42 ลีดส์ ได้ประตูไล่มาเป็น 1-4 ราฟินญา เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ และเป็น เลียม คูเปอร์ ขึ้นโหม่งเสียบมุมเข้าไป นาทีที่ 43 โอกาสของแมนยูฯ เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด พาบอลกระชากเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวา บอลแฉลบ ข้ามคานออกไป และถัดมานาทีเดียว แรชฟอร์ด ได้ยิงอีกอีกครั้ง แต่ อัลลัน เมสลิเยรื โกลของลีดส์ ยังพุ่งไปรับไว้ได้
จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ 4-1
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 แมนยูฯ เกือบบวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะที่ บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อองโตนี มาร์เชียล แตะหลบกองหลังแล้วยิงด้วยขวา บอลหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นนาทีที่ 50 ลีดส์ น่าได้ประตูสุดๆ เมื่อ โรดริโก โมเรโน เปิดบอลจากฝั่งขวาไปที่เสาสอง ราฟินญา ได้วอลเลย์จ่อๆ ดาบิด เดเคอา เซฟได้อย่างสุดยอด ก่อนที่บอลจะไปชนเสาและมีแข้งปิศาจแดงมาช่วยสกัดทิ้งไปได้ ถัดมา 7 นาที โอกาสของแมนยูฯ บรูโน เฟอร์นันเดส ตั้งป้อมยิงไกล บอลแฉลบผู้เล่นลีดส์เปลี่ยนทางหลุดเสาสองไป นาทีที่ 61 แมนยูฯ ได้ลุ้นอีกแล้ว อองโตนี มาร์เชียล พลิกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังลีดส์พุ่งเข้าข้างตาข่าย นาทีที่ 65 ลีดส์ได้ลุ้นบ้าง ราฟินญา ซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลพุ่งเหมือนกำลังจะเสียบเสาแรก ดาบิด เดเคอา เลยพุ่งปัดออกไปก่อนเพื่อความชัวร์ ถึงนาทีที่ 66 แมนยูฯ หนีไปไกลเป็น 5-1 จากจังหวะที่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ พาบอลตะลุยขึ้นมาก่อนจ่ายทะลุให้ แดเนียล เจมส์ หลุดเดี่ยวก่อนยิงลอดขา อัลลัน เมสลิเยร์ เข้าไป แค่นั้นยังไม่พอ นาทีที่ 70 แมนยูฯ ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ อองโตนี มาร์เชียล โดน ปาสกาล สตรูยิช สกัดร่วงลงไป และเป็น บรูโน เฟอร์นันเดส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พา แมนยูฯ นำห่างไปอีกเป็น 6-1 นาทีที่ 73 ลีดส์ ไล่มาเป็น 2-6 จากจังหวะที่ สจ๊วร์ต ดัลลัส บรรจงปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลโค้งเสียบมุมเข้าไปอย่างงดงาม นาทีที่ 84 แมนยูฯ เกือบได้เม็ดที่เจ็ด เมื่อ เอดินสัน คาวานี ซัดด้วยขวาในเขตโทษ อัลลัน เมสลิเยร์ เซฟมาเข้าทาง แดเนียล เจมส์ ซ้ำอีกที ก็ยังไม่ผ่าน เมสลิเยร์ นาทีที่ 86 แมนยูฯ มาอีกแล้ว อองโตนี มาร์เชียล จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อเล็กซ์ เตลเลส ซัดด้วยซ้าย เมสลิเยร์ ปัดออกไปได้อีกครั้ง นาทีที่ 87 แมนยูฯ ขอลุ้นอีกหน เฟร็ด ตัดบอลได้ก่อนพาบอลลุยเข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยว้าย แต่ เมสลิเยรื ก็ยังเซฟออกไปได้อีกแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป 6-2 เก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ดาบิด เดเคอา (GK), วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, อารอน วาน-บิสซากา, เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, บรูโน เฟอร์นันเดส, แดเนียล เจมส์, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์เชียล
ลีดส์ ยูไนเต็ด: อัลลัน เมสลิเยร์ (GK), สจ๊วร์ต ดัลลัส, ลุค อายลิง, เลียม คูเปอร์, เอซกาน อลิออสกี, คัลวิน ฟิลลิปส์, ราฟินญา, โรดริโก โมเรโน, มาเตอุสซ์ คลิช, แจ็ค แฮร์ริสัน และ แพตทริค แบมฟอร์ด