3 สิ่งที่ “คลอปป์” ต้องปรับก่อนนำ “ลิเวอร์พูล” ลุยซีซั่น 2020-21
3 สิ่งที่ทาง “เยอร์เกน คลอปป์” กุนซือเลือดเบียร์ต้องปรับก่อนนำ “ลิเวอร์พูล” ยอดทีมแดนผู้ดี ลุยศึกในซีซั่น 2020-21 ที่ใกล้จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการ
วันที่ 30 ส.ค. 63 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ดวลจุดโทษพ่าย “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 4-5 หลังเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ส่งผลให้ชวดแชมป์ คอมมิวนีตี ชิลด์ ไปอย่างน่าเสียดาย และนี่คือ 3 สิ่งที่ทาง เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันต้องปรับก่อนเข้าสู่ศึกฤดูกาล 2020-21 อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
1. สร้างความกระหาย
ฤดูกาลที่ผ่านมาคือฤดูกาลที่มหัศจรรย์ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เมื่อพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรและถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว แต่กระนั้นในช่วงท้ายหลังจากที่พวกเขาได้แชมป์ไปแล้วความกระหายของนักเตะชุดนี้ดูจะลดน้อยลงไปพอสมควรและมันลากยาวมาถึงเกม คอมมิวนีตี ชิลด์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาด้วย ซึ่งทาง เยอร์เกน คลอปป์ ต้องสร้างความกระหายให้ลูกทีมเพื่อการล่าความสำเร็จในฤดูกาลใหม่นี้
2. ปัญหาแดนกลางที่ไร้ไอเดีย
กองกลางสามคนของยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ ที่ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมนี้คือ จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ และ เจมส์ มิลเนอร์ แต่ต้องบอกว่าแผงกองกลางของพวกเขา ตีบตัน ไร้ไอเดีย เล่นไม่ออก และไม่มีมิติที่มากพอ ขณะที่กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็ได้รับบาดเจ็บ โดยที่มี เคอร์ติส โจนส์ และ นาบี เกอิตา เป็นสำรองที่ถูกส่งลงมาแต่กระนั้นก็ไม่สามารถช่วยยกระดับทีมได้เท่าที่ควร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทีมต้องคว้าตัว ติอาโก อัลคันทารา จาก “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก มาร่วมทีมให้ได้
3. จังหวะจบสกอร์ที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง
แม้เกมนี้ ลูกทีม เยอร์เกน คลอปป์ มีโอกาสทำประตูมากกว่า “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ภายใต้การนำทีม มิเกล อาร์เตตา ที่สัดส่วน 15:8 (เข้ากรอบ 4:2) แต่กระนั้นกว่าพวกเขาจะมาได้ประตูก็ในช่วงครึ่งหลังนาทีที่ 73 แล้วจาก ทาคูมิ มินามิโนะ นั่นทำให้เห็นว่านอกจากเกมรับที่ยังต้องปรับปรุงแล้วเกมรุกของทีมก็ยังต้องแก้ไขอีกด้วยหลังจากยังไม่เข้าที่เข้าทาง โดยเฉพาะการเข้าทำที่ยังมีรายละเอียดต้องจูนอีกพอสมควร
Credit : https://www.thairath.co.th/