5 ข้อน่าสังเกตเกมแมนยูบุกทุบบียาร์เรอัล
แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่มีกุนซือแบบเป็นตัวเป็นตนสร้างชื่อผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน ไมเคิ่ล คาร์ริค นายใหญ่ขัดตาทัพก็ประเดิมคุมทีมได้อย่างสุดสวยด้วยการพา ผีแดง บุกมาพิชิต บียาร์เรอัล ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-0
และนี่คือ 5 ข้อน่าสังเกตจากเกมที่ เอสตาดิโอ เด ลา เซรามิก้า เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
1.บรูโน่ แฟร์นันด์สถูกดร็อปอย่างน่าประหลาด
ไม่มีใครอยากเชื่อว่าจากการเผยรายชื่อ 11 นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมบุกมาเยือน บียาร์เรอัล คาร์ริค จะตัดสินใจแบบกล้าบ้าบิ่นดร็อปเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโปรตุเกสเป็นตัวสำรอง
แน่นอนว่าไม่มีใครแอนตี้ที่อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ออกสตาร์ตในโผตัวจริงหลังจากกองกลางทีมชาติฮอลแลนด์สร้างผลกระทบได้เยี่ยมในฐานะตัวสำรองเกมลีกนัดออกไปแพ้ วัตฟอร์ด 4-1
หากแต่คนที่ ฟาน เดอ เบ็ค ได้เสียบแทนไม่สมควรเป็น แฟร์นันด์ส ด้วยประการทั้งปวง
อย่างไรก็ดี อาจเป็นเรื่องน่าช็อคที่ คาร์ริค เลือกดร็อปดาวเตะเลือดฝอยทองโดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ก่อนเกมฉะกับ เรือดำน้ำสีเหลือง ว่าระยะนี้ดาวเตะ ผีแดง ไม่อยู่ในช่วงโชว์ฟอร์มได้ดีเลยสักราย
และจากภาพข่าวที่ปรากฏในสนามซ้อมของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันก่อน มันฟ้องให้เห็นว่าเจ้านายขัดตาทัพยืนคุยกับ แฟร์นันด์ส นานเป็นพิเศษ
จึงไม่แน่ว่าเขาอาจแจ้งกับลูกทีมล่วงหน้าแล้วก็เป็นได้ว่าอาจขอให้พักแข้งพักขาบ้างเพื่อเติมความสดชื่น และลองเปิดทางให้ ฟาน เดอ เบ็ค ได้โชว์ของแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่เอาเข้าจริง สตาร์ทีมชาติฮอลแลนด์ก็ยังมีฝีเท้าที่ห่างไกลจาก แฟร์นันด์ส ดังจะเห็นว่า ผีแดง เป็นรองเจ้าบ้านบานเบอะในครึ่งแรก
ดีที่ว่ายังไม่เสียประตูเนื่องจาก ดาบิด เด เคอา อาศัยความเหนียวช่วยเซฟทีมได้เช่นเดิม
และในที่สุด หลังจาก คาร์ริค ส่ง แฟร์นันด์ส ลงไปเล่นแทน ฟาน เดอ เบ็ค เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา โดยเฉพาะเกมรุกที่ไม่ปรากฏให้เห็นเลยก่อนหน้านี้
เท่านั้นไม่พอ เจ้าพ่อจอมแอสซิสต์ยังผ่านบอลให้ เจดอน ซานโช่ กดเม็ดแรกของตัวเองได้ในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอกฝาโลงเจ้าบ้านอีกต่างหาก
นี่ถ้า ฟาน เดอ เบ็ค ยังอยู่ในสนามโดยที่ แฟร์นันด์ส นั่งอยู่ในซุ้มต่อ ก็ไม่รู้ว่า ผีแดง จะเอาชนะ เรือดำน้ำสีเหลือง ได้ในแง่มุมไหน
และจากอีกหนึ่งแอสซิสต์ในเกมนี้ก็เป็นแอสซิสต์ที่ 5 ของ แฟร์นันด์ส ในรายการนี้ไปแล้วซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดในซีซั่นนี้
ขณะเดียวกัน หากจะนับการสร้างโอกาสในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก มันก็เป็นครั้งที่ 17 ของเขาซึ่งเป็นสถิติที่สูงสุดในรายการนี้เช่นกัน
ฉะนั้นแล้ว หากมีคำพูดที่ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ควรถูกดร็อป แฟร์นันด์ส ก็ไม่ควรถูกจับให้นั่งอยู่ข้างสนาม
2. บียาร์เรอัล แพ้ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด
ว่ากันตามจริง ผีแดง มีผลงานในเกมเยือนถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เลวร้ายอย่างแรงโดยสามารถกำชัยได้แค่ 7 จาก 24 นัดหลังเท่านั้น (เสมอ 6 แพ้ 11)
รวมแล้วสี่นัดหลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะเกมเยือนในถ้วยใบนี้เลย (เสมอ1แพ้3) นับตั้งแต่บุกไปคว่ำ เปแอสเช 2-1 เมื่อเดือนต.ค. ปีก่อน
อย่างไรก็ดี ผีแดง ไม่เคยเสียท่าให้กับ เรือดำน้ำสีเหลือง เช่นกัน
และเมื่อนับรวมเกมล่าสุด ทีมจาก พรีเมียร์ลีก เอาชนะทีมจาก ลา ลีกา รายนี้ได้สองหน และเสมออีกสี่หน จากการดวลกันมาแล้วทั้งหมดหกนัด
เท่ากับว่า บียาร์เรอัล แพ้ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด เห็นๆเพราะต่อให้เล่นกันได้ดีแค่ไหนก็ยากที่พวกเขาจะสอยตาข่ายทีมจากเมืองผู้ดีรายนี้
3.อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หมดอนาคตแล้ว
กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสได้ลงเล่นเป็นตัวจริงจนได้หลังจากศรีภรรยาของเขาเคยโพสต์เฉ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ว่ามองข้ามกองหน้าเฟรนช์แมนซึ่งฟิตสมบูรณ์ดี และไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรบกวน
แล้วดูเอาซิ ทั้งๆที่ได้รับโอกาสจากเจ้านายชั่วคราว มาร์กซิยาล ก็ยังไม่อาจสร้างความประทับใจได้อยู่นั่นเอง
ตลอดเวลา 66 นาทีที่อยู่ในสนาม หัวหอกผิวสียังเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ไม่คิดวิ่งสู้ฟัด และไม่มีความกระตือรือร้นให้เห็นแม้แต่น้อยจนดูราวกับว่าแต่ละเกม อดีตดาวเตะทีม โมนาโก แทบไม่เสียเหงื่อเลยก็ว่าได้
จนในที่สุด หลังจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ลงเล่นแทน เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็วูบวาบขึ้นแบบทันตาเห็น สร้างปัญหาให้กับเจ้าบ้านได้มากขึ้นเรื่อยๆกระทั่งกำชัยไปได้ในที่สุด
เห็นอย่างนี้แล้ว หาก มาร์กซิยาล จะถูกจับดองยาวอย่างถาวร แฟนบอล ปีศาจแดง ก็คงไม่มีใครเห็นค้านเป็นแน่
4.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สร้างสถิติอีกจนได้
หลังจากรูปเกมเป็นรอง บียาร์เรอัล อยู่นาน ในที่สุด โรนัลโด้ ก็พังประตูเจ้าบ้านได้สำเร็จจากจังหวะที่ เฟร็ด เข้าไปแย่งบอลจาก เอเตียง กาปู ซึ่งเล่นได้ลำบากเนื่องจากนายทวาร เกโรนิโม่ ก่อความผิดพลาดจ่ายบอลสั้น
และประตูล่าสุดของ ซีอาร์เวเว่น ในเกมกับ บียาร์เรอัล ก็เป็นหนที่สามแล้วที่ โรนัลโด้ พังประตูชัยในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ได้ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายซึ่งไม่เคยมีพ่อค้าแข้งคนไหนทำได้มากเท่านี้มาก่อน (รวมช่วงทดเวลาด้วย)
อย่างไรก็ดี ที่แจ๋วไปกว่านั้นก็คือประตูล่าสุดของเขาทำให้ดาวยิงพ่อลูกดกเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูให้กับสโมสรของอังกฤษได้ห้าเกมติดต่อกันสำหรับรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก ในหนึ่งซีซั่น (ไม่นับเกมในรอบคัดเลือก)
5.แผงหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังรั่วไม่เปลี่ยน
หลังซดเกือกกับ บียาร์เรอัล ครบ 90 นาที
มีสถิติเผยออกมาว่าเจ้าบ้านมีโอกาสส่องยิงมากกว่าทั้งหมด 13 ครั้ง
แต่เข้ากรอบสามครึ่งซึ่ง เด เคอา โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งได้หมดอย่างน่าทึ่ง
นอกนั้นดาวเตะ บียาร์เรอัล ซัดบอลทิ้งขว้างกันไปเองหมดทั้งหลุดกรอบ หรือไม่ก็โด่งข้ามคานทั้งๆที่โอกาสเปิดกว้างให้แท้ๆ
เป็นอย่างนี้ มันจึงฟ้องให้เห็นว่าเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเป็นจุดอ่อน และเป็นปัญหาหลักที่สมควรได้รับการแก้ไข แม้นัดนี้พวกเขาจะมีคลีนชีตก็ตามที
จากที่เห็น แผงหลัง ปีศาจแดง เอาแต่ยืนดูคู่แข่งบุกเข้าหาโดยไม่คิดเข้าประกบเร็ว หรือพยายามแย่งบอลปิดกั้นโอกาสสับไกอะไรเลย
เมื่อเล่นกันด้วยแนวทางนี้ บียาร์เรอัล จึงส่องยิงได้ตามใจชอบ แต่อย่างที่บอก เด เคอา ยังเป็นที่พึ่งของทีมอย่างน่าเห็นใจแทน
พร้อมกันนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มี โรนัลโด้ สวมบท “เดอะ แบก” ของทีมอีกรายจากการฉวยโอกาสยิงประตูได้สำเร็จ
จึงแน่นอนว่า ผีแดง ยังมีอาการที่น่าเป็นห่วง และหากไม่รีบแก้ไขก็คงไม่ง่ายที่พวกเขาจะได้เฮฮาเหมือนเกมบุกชนะ บียาร์เรอัล