ลิเวอร์พูล หงายท้อง นำก่อนสุดท้ายโดน เลสเตอร์ แซงดับ 3-1 พ่าย 3 นัดติด
“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านแซงเอาชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไป 3-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกวันเสาร์ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ประจำวันเสาร์ที่ 13 ก.พ. 64 คู่ที่น่าสนใจ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 ของตาราง เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดยม รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อันดับ 4 ของตาราง
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 10 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นจากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลยาวขึ้นมาอย่างสวยให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พักอกเข้าเขตโทษแต่มัวยึกยักสุดท้ายทำบอลลั่นออกหลังไป ไม่ได้ยิง ถัดมานาทีเดียว เลสเตอร์ ได้ลุ้นบ้าง เมื่อ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เจมี วาร์ดี กระดกบอลข้าม อลิสสัน เบคเกอร์ ไปแล้ว แต่ข้ามคานออกไป จากนั้น นาทีที่ 27 ลิเวอร์พูล น่าขึ้นนำเมื่อ ซาดิโอ มาเน โหม่งตั้งให้ โรแบร์โต เฟอร์มิโน ได้ยิงจ่อๆ ในเขตโทษ แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ปัดออกไปได้ นาทีที่ 36 เลสเตอร์ เกือบได้เหมือนกัน จากจังหวะที่ ฮาร์วียื บาร์นส์ เปิดบอลจากฝั่งว้ยเข้ากรอบเขตโทษ เจมี วาร์ดี ขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่บอลตรงตัว อลิสสัน เบคเกอร์ ถึงนาทีที่ 39 หงส์แดง มาอีกแล้ว คราวนี้เป็น โรแบร์โต เฟอร์มิโน จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไป และในนาทีที่ 41 เลสเตอร์ได้โอกาสทอง เมื่อ เจมี วาร์ดี หลุดเข้าเขตโทษก่อนกระหน่ำด้วยขวา บอลพุ่งชนคานดังสนั่น
จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 51 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซัดทันที แต่บอลข้ามคานออกไป จากนั้นนาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกระยะหวังผล และเป็น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ปั่นด้วยขวา บอลพุ่งชนคานอย่างจัง ถึงนาทีที่ 67 ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลุยมาในเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ โรแบร์โต เฟอร์มิโน ไขว้จ่ายย้อนมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 80 เลสเตอร์ ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย เจมส์ แมดดิสัน ซัดด้วยขวา บอลไม่โดนใครเข้าประตูไปเลย ตอนแรกไลน์แมนยกธงล้ำหน้า แต่สุดท้าย VAR เช็กว่าไม่ล้ำ ถัดมา 2 นาที เลสเตอร์ ขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ยูริ ติเลอมองส์ เปิดบอลยาวขึ้นหน้าแล้ว อลิสสัน เบคเกอร์ กับ โอซาน คาบัค 2 ผู้เล่นหงส์แดงชนกันเอง บอลมาเข้าทาง เจมี วาร์ดี พาบอลเข้าไปยิงง่ายๆ นาทีที่ 83 เลสเตอร์ เกือบบวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ใช้ความเร็วพาบอลแหวกผู้เข้าเขตโทษฝั่งซ้สยก่อนซัดทันที อลิสสัน เบคเกอร์ ปัดบอลมาเข้าทาง เจมี วาร์ดี ซ้ำอีกอีก อลิสสัน ก็ยังเซฟออกมาได้อีก ถึงนาทีที่ 85 เลสเตอร์ นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี จ่ายบอลทะลุขึ้นมาให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงเข้าไปง่ายๆ
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 46 คะแนน ขยับขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง ส่วน ลิเวอร์พูล นิ่งอยู่ที่ 40 แต้ม รั้งอันดับ 4 ต่อไป
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิล (GK), จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนคู, แดเนียล อมาร์ตีย์, ริคาร์โด์ เปเรรา, ยูริ ติเลอมองส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี, มาร์ค อัลไบรจ์ตัน, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ เจมี วาร์ดี
ลิเวอร์พูล : อลิสสัน เบคเกอร์ (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต เฟอร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน่