สเตอร์ลิงอีกแล้ว เคนปลดล็อก อังกฤษแกร่งรัวท้ายเกมทุบเยอรมัน ฉลุย 8 ทีมยูโร
“สิงโตคำราม” ยังแกร่งทั่วแผ่นเป็นทีมเดียวที่ไม่เสียประตูให้ทีมใด หลังทำผลงานยอดเยี่ยมไล่บดเอาชนะ “อินทรีเหล็ก” 2-0 ทะลุเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในศึกยูโร เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันอังคารที่ 29 มิถุนายน มิถุนายน 2564 จากสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมือง ลอนดอน ประเทศ อังกฤษ เป็นการพบกันระหว่าง “สิงโตคำราม” อังกฤษ ที่เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม ดี ดวล “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน รองแชมป์ของกลุ่ม เอฟ
เปิดฉากครึ่งแรก 5 นาทีเป็น “อินทรีเหล็ก” ทักทายก่อนจากจังหวะหน้าเขตโทษของ เลออน โกเร็ตซ์ก้า แหวกขึ้นมาได้ช่องซัดด้วยขวาบอลผ่านบล็อคกระดอนพื้นไปตรงตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด รับไว้ได้ไม่พลาด นาทีที่ 8 เยอรมัน มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย เดแคลน ไรซ์ เสียเหลี่ยมไปเหนี่ยวแขน เลออน โกเร็ตซ์ก้า ร่วงหน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน แจกใบเหลืองทันทีก่อนเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ สังหารลูกนี้ไปติดกำแพง ต่อมานาทีที่ 15 “สิงโตคำราม” ตอบโต้บ้างจากจังหวะหน้าเขตโทษของ ราฮีม สเตอร์ลิง โยกตัดเข้าในก้มหน้าปั่นด้วยขวาระยะร่วม 30 หลาบอลโค้งเกือบเสียบเสาไกลติดปลายมือ มานูเอล นอยเออร์ ผวามาปัดทิ้งหวุดหวิด จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางฝั่งขวา คีแรน ทริปเปียร์ ปั่นบอลโค้งเข้าเขตโทษมาตกใส่หัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขยับมาโขกเปลี่ยนทางเสียดายไปตรงตัว มานูเอล นอยเออร์ ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้ 27 นาทีผ่าน อังกฤษ เริ่มทำได้ดีกว่าพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายหลายครั้ง คัลวิน ฟิลลิปส์ ยกออกขวาให้ คีแรน ทริปเปียร์ หลุดกับดักล้ำหน้าครอสเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยืนโขกหน้ากรอบ 6 หลาเหินข้ามคานออกไป นาทีที่ 33 เยอรมัน ขยับขึ้นมาบ้าง ไค ฮาแวร์ตซ์ ฝากบอลออกขวาให้ โจชัว คิมมิช สอดขึ้นมาลากตัดเข้าในหยอดเข้าเขตโทษข้ามหัวแนวรับ อังกฤษ เกือบเข้าหัว โรบิน โกเซนส์ เสียดายยังแรงเลยออกหลังไป นาทีต่อมา “อินทรีเหล็ก” พลาดโอกาสทองจากบอลหน้าเขตโทษของ ไค ฮาแวร์ตซ์ กระชากขึ้นมาแทงเข้าเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายแต่จังหวะซัดไปติดบล็อค จอร์แดน พิคฟอร์ด ออกมาปิดมุมใช้ชาช่วยเซฟนิดเดียว เยอรมัน หวิดงานเข้านาทีที่ 46 โธมัส มุลเลอร์ คืนหลังพลาดโดน ราฮีม สเตอร์ลิง สอดมาฉกลากแหวกเข้าเขตโทษก่อนโดนแซะร่วงลงไปบอลทะลักมาถึง แฮร์รี่ เคน แตะหลบ มานูเอล นอยเออร์ เกือบได้ยิงแต่ต้องชม มัตส์ ฮุมเมลส์ ตามมาทิ้งตัวสกัดเหลือเชื่อ หมดครึ่งเวลาแรก อังกฤษ ยังเสมอ เยอรมัน 0-0
กลับมาต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 “อินทรีเหล็ก” ออกหมัดก่อนจากจังหวะทางซ้ายของ โรบิน โกเซนส์ ตามมาเก็บบอลตักย้อนเข้าเขตโทษติดหัวแนวรับ อังกฤษ โขกสกัดไม่ขาดย้อนมาเข้าทาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ตวัดด้วยซ้ายตามน้ำเกือบเสยใต้คานติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผวาปัดทิ้งออกหลัง 60 นาทีผ่านรูปเกมอึดอัดระวังตัวด้วยกันทั้งคู่โดยเป็น เยอรมัน ทำได้ดีกว่าใช้จังหวะสวนกลับฝากให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ลุ้นประตูหลายครั้ง ส่วนทาง “สิงโตคำราม” ครึ่งหลังยังไม่มีโอกาสยิงแม้แต่ครั้งเดียว แต่แล้วนาทีที่ 75 อังกฤษ ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวย แฮร์รี่ เคน เก็บบอลหน้าเขตโทษก่อนแปะตั้งให้ แจ็ค กรีลิช ตอบออกซ้ายถึง ลุค ชอว์ สอดมาปาดเข้าเขตโทษโค้งมาเข้าเท้า ราฮีม สเตอร์ลิง โฉบมาชาร์จในกรอบ 6 หลาผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ ซุกก้นตาข่าย 10 นาทีสุดท้าย เยอรมัน พลาดโอกาสตีเสมอจากความผิดพลาดของ ราฮีม สเตอร์ลิง สุดท้ายเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ แทงบอลขึ้นมาให้ โธมัส มุลเลอร์ หลุดเดี่ยวกระชากขึ้นมาก้มหน้าซัดด้วยขวาหลุดเสาแรกเหลือเชื่อ นาทีที่ 86 “สิงโตคำราม” มาปิดกล่องทิ้งห่างเป็น 2-0 จากจังหวะขยันของ ลุค ชอว์ ตัดบอลกลางสนามลากแหวกขึ้นมาแทงเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายถึง แจ็ค กรีลิช ครอสเข้าในให้ แฮร์รี่ เคน ทิ้งตัวโขกกระดอนพื้นตุงตาข่ายงามหยด หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม อังกฤษ เชือด เยอรมัน 2-0
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง
อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, คีแรน ทริปเปียร์, คัลวิน ฟิลลิปส์, เดแคลน ไรซ์, ลุค ชอว์, บูกาโย่ ซาก้า, แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง
เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์, มัทธีอัส กินเตอร์, มัตส์ ฮุมเมลส์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, โจชัว คิมมิช, โทนี่ โครส, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, โรบิน โกเซนส์, ไค ฮาแวร์ตซ์, โธมัส มุลเลอร์, ติโม แวร์เนอร์