ไบยี่ยิงตัวเอง แมนยูสิ้นท่าพังคารัง “แบร์นาร์โด้” ย้ำชัยส่งแมนซิตี้ขึ้นรองฝูง
สถานการณ์ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องกลับมาอยู่ในช่วงกดดันอีกครั้ง หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายคารังต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 โดยที่ “เรือใบสีฟ้า” ได้ประตูจากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ เอริค ไบยี่ การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2564 นัด “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 พบ แมนฯ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 ของตาราง
เปิดฉากครึ่งแรกมา แมนฯซิตี้ ครองเกมบุกใส่ก่อนตามคาดและมาได้ทักทายก่อนในนาทีที่ 3 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลากจากขวาตัดเข้าในแล้วปั่นดด้วยซ้ายในเขตโทษแต่โดนไม่เต็มบอลหลุดกรอบออกไปไกล หลังจากนั้น แมนยู ตอบโต้กลับมาได้ลุ้นขึ้นนำบ้าง ในนาทีที่ 6 จากจังหวะฟรีคิก ลุค ชอว์ เปิดเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นโหม่งบอลหลุดกรอบออกไปแบบหวุดหวิด อย่างไรก็ตามนาทีที่ 7 กลายเป็น แมนซิตี้ ที่ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ ชูเอา กันเซโล่ เปิดบอลมาที่เสาแรก ก่อนที่ เอริก ไบยี่ จะพยายามสกัดแต่ผิดเหลี่ยมเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป แมนยู เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้บ้างมีโอกาสขึงบุกใส่อยู่สักพัก นาทีที่ 26 เกือบตามตีเสมออย่างน่าเสียดาย เมื่อ ลุค ชอว์ เติมขึ้นมาเปิดจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เอี้ยวตัวซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน ปัดทิ้งมาได้หวุดหวิด จากนั้น แมนซิตี้ เกือบได้ลูกสอง ในนาทีที่ 29 จากโอกาสโต้กลับขึ้นมา ฟิล โฟเด้น หลุดมาในเขตโทษทางด้านซ้ายแล้วไหลต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งมาวางเท้าซัดเน้นๆไปติดบล็อกแนวรับ แมนยู แล้วกระดอนมาเข้าทางปืนของ กาเบรียล เชซุส ตามซ้ำจ่อๆ แต่ ดาบิด เด เคอา โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งไปอย่างเหลือเชื่อ จนแล้วจนรอด “เรือใบสีฟ้า” ก็ยังไม่ได้ลูกสอง นาทีที่ 34 กาเบรียล เชซุส ไหลบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ กดเน้นๆด้วยขวาแต่ก็ยังติดเซฟของ เด เคอา ปัดทิ้งออกหลังไปอีก ท้ายครึ่งแรกเกมของ แมนยู ดีขึ้นมาบ้าง นาทีที่ 40 แอรอน วาน บิสซาก้า แทงทะลุช่องให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแล้วกดด้วยขวาไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน อย่างไรก็ตามจังหวะนี้ผู้ช่วยยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าของ ซีอาร์เซเว่น ไปก่อนแล้ว จนกระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 45 แมนซิตี้ นำห่าง 2-0 จนได้ เมื่อ ชูเอา กันเซโล่ ตักบอลไปที่เสาไกลให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา สอดมาจากด้านหลังก่อนจะแหย่เท้าส่งบอลเข้าประตูไป โดยที่จังหวะนี้ทั้ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ลุค ชอว์ ได้แต่ยืนมองไม่ยอมเข้าสกัดบอลจนเป็นเหตุให้เสียประตู จบครึ่งแรก แมนซิตี้ บุกมานำ แมนยู 2-0
กลับมาต่อครึ่งหลัง โซลชา ไม่รอช้าปรับหมากด้วยการส่ง เจดอน ซานโช่ ลงมาเล่นแทน เอริค ไบยี่ พร้อมปรับระบบมาเล่นแบ็กโฟร์โดยที่ ซานโช่ มายืนทางฝั่งซ้าย แมนยู ครองบอลได้มากกว่าครึ่งแรกอย่างชัดเจน หลังจาก แมนซิตี้ ถอยไปเน้นตั้งรับมากขึ้น ก่อนที่นาทีที่ 59 จะได้ได้โอกาสลุ้นครั้งแรกในครึ่งหลัง จากจังหวะที่ เมสัน กรีนวู้ด ลากจากขวาตัดเข้าในแล้วกดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่ยิงบดไปบอลไม่ตรงกรอบ จากนั้นเจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวคนที่สองส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงมาแทน เมสัน กรีนวู้ด ในนาทีที่ 67 ขณะที่นาทีที่ 73 แมนยู ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนที่สามหลังจาก ลุค ชอร์ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ก่อนจะเป็น อเล็กซ์ เตลลิส ลงมาเล่นแทน นาทีที่ 81 แมนซิตี้ เกือบจะได้ประตูตอกฝาโลงเมื่อ ฟิล โฟเด้น หลุดมากดเน้นๆด้วยซ้ายในเขตโทษบอลถากเสาไกลออกไปนิดเดียว เปอร์เซ็นต์การครองบอลของ แมนซิตี้ กลับมาเหนือกว่า แมนยู แบบชัดเจนอีกครั้ง หลังครองบอลอยู่ฝ่ายเดียวจนทำให้เกมรุกของ “ปีศาจแดง” กลายเป็นอัมพาตไปเลย ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไมได้ จบเกม แมนซิตี้ บุกชนะ แมนยู 2-0 แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงชั่วคราว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา (GK), เอริก ไบยี่ (เจดอน ซานโช่ น.46), แฮร์รี่ แม็คไกวร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แอรอน วาน-บิสซาก้า, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด (ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค น.80), ลุค ชอว์ (อเล็กซ์ เตลลิส น.73), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมสัน กรีนวู้ด (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.67)
แมนฯซิตี้ : เอแดร์ซอน (GK), ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, ชูเอา กันเซโล่, อิลคาย กุนโดกัน, โรดี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ฟิล โฟเด้น, เควิน เดอ บรอยน์