โชเซ่ เซ็งถูกต้นสังกัดปิดทางแจ้งเกิดทั้งที่มีทีมใหญ่สนใจ
วิลเลี่ยน โชเซ่ หอกจาก เรอัล โซเซียดาด ได้ออกมาบอกว่า ตอนปี 2020 ตนเองเป็นนักเตะระดับที่ว่า บาร์เซโลน่า และ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยให้ความสนใจ แต่กลับถูกต้นสังกัดเก็บตัวไว้ไม่ยอมปล่อย ทั้งที่ตนเองก็พร้อมที่จะไปสู่ทีมใหญ่ในเวลานั้น
วิลเลี่ยน โชเซ่ กองหน้าชาวบราซิลเลียนของ เรอัล โซเซียดาด ทีมดังแห่งศึก ลา ลีกา สเปน ได้เปิดเผยว่าตนเองเคยถูก บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอที่จะซื้อเขาไปร่วมทีมเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา แต่ผู้บริหารของ โซเซียดาด กลับไม่ยอมที่จะปล่อยตนเองออกจากทีมตามที่เคยสัญญาเอาไว้
โชเซ่ นั้นนับเป็นกำลังสำคัญในการทำประตูของทีม เรอัล โซเซียดาด เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งมันก็ทำให้กลายเป็นนักเตะที่ได้รับความสนใจจากหลายทีมดัง แต่แล้วกองหน้ารายนี้ก็ไม่สามารถย้ายออกจากทีมไปไหนได้เลย โดยล่าสุดเขามีโอกาสได้มาเล่นให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แต่มันก็เป็นเพียงสัญญาแบบยืมตัวเท่านั้น จนตอนนี้ก็ต้องกลับไปเล่นให้กับ โซเซียดาด เหมือนเคย
ดาวยิงชาวแซมบ้ารายนี้ได้เผยกับสื่อว่า “ผมคิดว่าพวกเขาปฏิบัติกับผมได้ไม่ดีเลย ผมคาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้ ตอนที่ผมต่อสัญญากับทีมผมก็ได้คุยกับทาง โรเบร์โต้ โอลาเบ้ เกี่ยวกับเรื่องที่ว่ามีบางทีมที่สนใจในตัวผมทั้งจาก พรีเมียร์ลีก และจาก ลา ลีกา ผมคุยกับเขา และเขาก็บอกกับผมเองว่าถ้ามีทีมใหญ่ที่ได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ขอซื้อผมล่ะก็ พวกเขาจะยอมปล่อยผม ซึ่งคำตอบนี้มันทำให้ผมใจเย็นขึ้นนะ”
“หลังจากนั้นก็มีทั้ง บาร์เซโลน่า กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยื่นข้อเสนอซื้อผม ผมมองว่านั้นเป็นโอกาสทองที่ผมจะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่ เพราะชีวิตคนเรามันเป็นแบบนั้นถ้ามีโอกาสแล้วคุณก็ต้องคว้ามันเอาไว้ให้ได้ และผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ แต่สุดท้ายแล้วหลายอย่างมันไม่เป็นไปด้วยดีเลย พวกเขาปล่อยผมไปอยู่กับ วูล์ฟ ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ปล่อยผมด้วยค่าตัว 23 ล้านยูโร แต่กลับเพิ่งจะปล่อยผมแบบยืมตัวในตอนนี้ บางทีฟุตบอลก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ยาก”