“ซาก้า” ทั้งยิง-ทั้งจ่าย อาร์เซน่อล ฮอตเปิดบ้านอัด สเปอร์ส เฮในลีก 3 เกมรวด
“ไอ้ปืนใหญ่” ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ฟอร์มเริ่มเข้าตาแฟนบอลหลังเปิดบ้านเชือด สเปอร์ส 3-1 เฮในลีก 3 เกมรวดและชนะมา 5 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการเก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนนขยับแซงขึ้นมารั้งอันดับ 10 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอล นัด “นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้” อาร์เซน่อล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของคู่ปรับตลอดการอย่าง สเปอร์ส โดยก่อนแข่ง “ไอ้ปืนใหญ่” หล่นไปอยู่อันดับ 14 หลังโดนวูล์ฟส์แซงขึ้นมาแทน ส่วน “ไก่เดือยทอง” รั้งอันดับ 10 ขณะที่การพบกันที่นี่เมื่อฤดูกาลที่แล้วทัพปืนคว้าชัยในรังเหนือทัพไก่หวุดหวิด 2-1
เปิดฉากครึ่งแรก 6 นาที “ไอ้ปืนใหญ่” ทักทายก่อน เอมิล สมิธ โรว์ ฝากบอลออกซ้ายให้ คีแรน เทียร์นี่ย์ กระชากขึ้นมาปาดเข้าเขตโทษถึง ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง สอดมาซัดตามน้ำยัดเสาแรกติดเซฟ อูโก้ โยริส ผวาปัดทิ้งนิดเดียว จากนั้นนาทีที่ 12 อาร์เซน่อล ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะของมาร์ติน โอเดนการ์ด แทงบอลออกขวาให้ บูคาโย่ ซาก้า ขยับเข้าเขตโทษสับหลอกได้ช่องปาดลอดขา เซร์คิโอ เรกีร่อน มาเข้าทาง เอมิล สมิธ โรว์ สอดมาตามนัดแปง่ายๆในกรอบ 6 หลาเข้าไปไม่พลาด 4 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น เร่งเครื่อง บูคาโย่ ซาก้า ขยับมาเก็บบอลในเขตโทษฝั่งขวาทำชิ่งกับ เอมิล สมิธ โรว์ ก่อนเบิ้ลย้อนตั้งให้ โธมัส ปาร์เตย์ วิ่งมาปั่นด้วยขวาผ่านบล็อคโค้งไปติดเซฟ อูโก้ โยริส ปัดทิ้งออกหลังหวุดหวิด นาทีต่อมาคราวนี้เป็น มาร์ติน โอเดนการ์ด ยกบอลตามช่องให้ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง พากระชากหนีแนวรับ สเปอร์ส ได้ช่องก้มหน้าตะบันด้วยขวาผ่านมือ อูโก้ โยริส เหินข้ามคานได้เสียว นาทีที่ 22 “ไก่เดือยทอง” ตอบโต้บ้างจากความสามารถเฉพาะตัวของ ซน ฮึง-มิน กระชากแหวกขึ้นมาจากครึ่งสนามสับหลอก โธมัส ปาร์เตย์ พาเข้าเขตโทษได้ช่องซัดด้วยซ้ายยัดมุมแคบติดเซฟ แอรอน แรมส์เดล แต่แล้วนาทีที่ 27 อาร์เซน่อล ทิ้งห่างเป็น 2-0 จากจังหวะของ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง ขยับมาเชื่อมบอลกลางสนามดีดออกซ้ายถึง เอมิล สมิธ โรว์ หลุดเดี่ยวกระชากเข้าเขตโทษก่อนหักย้อนเข้าในคืนให้ โอบาเมย็อง ตวัดด้วยซ้ายกระดอนพื้นผ่านมือ อูโก้ โยริส ซุกก้นตาข่าย ไม่หนำใจนาทีที่ 34 เจ้าถิ่น ยำเพิ่มเป็น 3-0 คราวนี้จากจังหวะสวนกลับ มาร์ติน โอเดนการ์ด ฝากบอลออกขวาให้ บูคาโย่ ซาก้า แหวกเข้าเขตโทษซัดไปติดบล็อค แฮร์รี่ เคน โชคไม่ดีบอลยังเข้าทาง บูคาโย่ ซาก้า ลุดขึ้นมาแปด้วยขวาติดปลายมือ อูโก้ โยริส แต่ยังดีพอเข้าประตู ท้ายครึ่งแรก สเปอร์ส พยายามตั้งเกมสู้จากลูกเตะมุมทางขวา ซน ฮึง-มิน ปั่นบอลโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาข้ามหัว เอริก ดายเออร์ มาตกใส่ แฮร์รี่ เคน โขกเต็มแรงหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว หมดครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล นำ สเปอร์ส 3-0
กลับมาต่อครึ่งหลังนาทีที่ 54 “ไอ้ปืนใหญ่” หวิดได้จุดโทษจากบอลยาวทางขวาของ มาร์ติน โอเดนการ์ด ทิ้งยาวลึกไปเสาไกลถึง ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง โขกชงเข้าในแต่ กาเบรียล มากัลเญส ที่สอดมารอจบสกอร์ไปโดน ดาวินซอน ซานเชซ อัดร่วงลงไปแต่ ผู้ตัดสิน ใจแข็งไม่เป่าให้ 60 นาทีผ่าน สเปอร์ส เริ่มขยับเกมรุกมากขึ้น เอเมอร์สัน รอยัล แปะบอลฝากเข้าในให้ แฮร์รี่ เคน แตะได้ช่องซัดด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลาบอลโค้งพุ่งหาโคนเสาแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ แอรอน แรมส์เดล นาทีต่อมาจากบอลยาวของ เอริก ดายเออร์ ทิ้งออกซ้ายให้ แฮร์รี่ เคน ใช้ความแข็งแกร่งเอาชนะ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ หลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยกหนี แอรอน แรมส์เดล โดนหน้าบอลผ่านหน้าประตูออกหลัง นาทีที่ 75 อาร์เซน่อล โหมบุกลุ้นปิดกล่อง บูคาโย่ ซาก้า เก็บบอลทางฝั่งขวาโยกหนี เซร์คิโอ เรกีร่อน ตัดเข้าในปั่นด้วยซ้ายโค้งผ่าน เอริก ดายเออร์ ติดปลายมือ อูโก้ โยริส ผวาปัดทิ้งเหลือเชื่อ 4 นาทีต่อมา “ไก่เดือยทอง” ตีไข่แตกจนได้จากจังหวะขยันของ ไบรอัน กิล ทิ้งตัวกวาดบอลให้ เซร์คิโอ เรกีร่อน หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเข้าเขตโทษให้ ซน ฮึง-มิน สอดมาตั้งเท้าชาร์จโดนปลายมือ แอรอน แรมส์เดล ปัดไม่พ้นพุ่งตุงตาข่าย ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือน มาส่งท้ายจากจังหวะของ ลูคัส มูร่า พาหนีแนวรับได้ช่องอัดด้วยซ้ายหน้ากรอบ 18 หลาบอลแฉลบ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ย้อยเกือบเสียบใต้คานแต่ต้องชม แอรอน แรมส์เดล ลอยไปปัดชนคานเด้งออกมา หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม อาร์เซน่อล สเปอร์ส เปิดบ้านชนะ 3-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : แอรอน แรมส์เดล (GK), ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, เบน ไวท์, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาคา (อัลแบร์ แซมบี้ โลคองก้า น.82), เอมิล สมิธ โรว์ (นูโน่ ตาวาเรส น.88), มาร์ติน โอเดนการ์ด, บูคาโย่ ซาก้า (เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส น.87), ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง
สเปอร์ส : อูโก้ โยริส (GK), จาเฟต แทนกันก้า (เอเมอร์สัน รอยัล น.46), ดาวินซอน ซานเชซ, เอริก ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีร่อน, ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ (ไบรอัน กิล น.70), ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, เดเล่ อัลลี่ (โอลิเวอร์ สคิปป์ น.46), ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน